“บิ๊กป้อม” ยกทัพ พปชร. “ธรรมนัส-นฤมล” ขึ้นเมืองน่าน พร้อมเปิดตัว 3 ขุนพล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เตรียมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า มั่นใจสามารถชิงพื้นที่เมืองน่าน เพิ่มจำนวน ส.ส. ภาคเหนือตามเป้าหมาย

 

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมศาลากลาง จังหวัดน่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคฯ และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ร่วมคณะลงพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ ยังมีนายวิรัช รัตนเศรฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรคฯ, นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรค, นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม., นาย จีรเดช ศรีวิราช ส.ส. เขต 3 พะเยา และนายภาคภูมิ พิบูลย์มุข รวมถึง นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมคณะข้าราชการในพื้นที่ ให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 เคร่งครัด

 

 

จากนั้น นายวิบูรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้กล่าวรายงานผลการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดน่าน และโอกาสการพัฒนาเศรษฐกิจจากการก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค ผาเวียง

 

พลเอกประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งและเก็บกักน้ำในฤดูฝนที่ผ่านมา พร้อมมอบหมาย สทนช.บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนจัดสรรน้ำ รวมถึงกำหนดแนวทางและมาตรการในการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำแล้ง-น้ำหลากในระยะยาว นอกจากนี้รัฐบาล ยังให้ความสำคัญและติดตามในการเร่งรัดพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยง จ.น่าน-พะเยา และการก่อสร้างสะพานและถนนเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค ผาเวียง-ปากนาย ตามข้อเสนอของจังหวัดน่าน เพื่อสร้างความเจริญ และความอยู่ดีกินดีของประชาชนในพื้นที่ต่อไป

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ จ.น่าน ครั้งนี้ เพื่อเร่งรัดติดตามการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ โดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการน้ำ และแผนงานโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำแล้ง โดยมอบหมายให้กรมชลประทานเร่งรัดแก้ไขผลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของอ่างเก็บน้ำน้ำกอน อ่างเก็บน้ำน้ำรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (พรด.) และอ่างเก็บน้ำห้วยจ๊วก (พรด.) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การขับเคลื่อนแผนงานโครงการเป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมมอบให้ สทนช.นำโครงการแก้ปัญหาน้ำแล้งในระยะยาวบรรจุในแผนแม่บทลุ่มน้ำเสนอต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) พิจารณาสนับสนุนงบประมาณต่อไป ที่สำคัญในช่วงหน้าแล้งนี้ได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการตาม 9 มาตรการป้องกันการขาดแคลนน้ำในช่วงแล้ง ปี 2564/65 อย่างเคร่งครัด เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะมาตรการป้องกันขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภค ซึ่งได้สั่งการให้จังหวัดพิจารณาคัดเลือกโครงการที่แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 

ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวเพิ่มเติมถึงความก้าวหน้าการพัฒนาแหล่งน้ำใน จ.น่าน ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 61–64) พบว่า มีแผนงาน/โครงการด้านน้ำเกิดขึ้นรวม 2,565 แห่ง ปริมาณน้ำเก็บกัก 4.64 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 34,023 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 24,685 ครัวเรือน อาทิ เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำน่าน โครงการก่อสร้างแหล่งน้ำในไร่นา นอกเขตชลประทาน

 

 

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส เชื่อมั่นว่า ว่าที่ผู้สมัครฯ ทุกคน ล้วนเติบโตมาจากลูกหลานชาวเมืองน่าน และต่างก็มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ จะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่เพื่อเข้ามาร่วมขับเคลื่อนงานของพรรคอย่างเข้มแข็ง เพื่อจะได้ช่วยกันผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาเมืองน่าน และเชื่อมโยงเครือข่ายพื้นที่ภาคเหนือต่อไปในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพรรคที่มีเป้าหมายให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน


ขณะที่ นางนฤมล กล่าวว่า มีความยินดีที่จะได้ร่วมงานกับตัวแทนพรรคฯ ในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คุ้นเคยกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเองมีโอกาสลงพื้นที่ พร้อมด้วยร้อยเอกธรรมนัส หลายครั้ง จึงเห็นความตั้งใจในความต้องการที่จะร่วมขับเคลื่อนพัฒนาเมืองน่านไปพร้อมกันกับประชาชนในพื้นที่ ด้วยการผลักดันนโยบายที่เป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ในสังคมส่วนรวม ตรงความต้องการ ทั้งในเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การพัฒนาฝีมือแรงงาน ส่งเสริมสินค้าในชุมชน เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้ประชาชนเพิ่มมากขึ้น