ต่อสายตรง 'บิ๊กอ๋อ' ธนพร เลขาฯ สกสค. ถกปมชัด 'ค้านเกณฑ์ประเมินใหม่' ด้าน 'ตรีนุช' เรียกประชุม 26 พ.ย. วินิจฉัย

 

กรณี ‘บิ๊กอ๋อ’ ธนพร สมศรี เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ทำหนังสือคัดค้านเกณฑ์การประเมินเลขาธิการ สกสค. ส่อไม่มีความเป็นธรรม จนอาจส่งผลให้ไม่ผ่านการประเมินนั้น

(อ่านประกอบ ‘รื้อเกณฑ์ประเมิน’ เลขาฯ สกสค. วัดผลชอบธรรม หรือ? หวังล้างไพ่)

วันนี้ (24 พ.ย. 2564) ทีมข่าวออนไลน์ช่อง 8 ต่อสายตรงพูดคุยกับ ‘บิ๊กอ๋อ’ ธนพร เลขาธิการ สกสค. ถึงประเด็นร้อนดังกล่าว

ธนพร เปิดเผยถึงที่มาที่ไปว่า เลขาธิการ สกสค. เป็นตำแหน่งใช้สัญญาจ้าง มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ทั้งนี้ โดยสัญญาจ้างมีข้อสัญญาว่า มีการประเมินการทำงานของเลขาธิการ สกสค.ในปีแรก 2 ครั้ง คือ ทุก 6 เดือน ส่วนปีที่ 2 3 และ 4 ประเมินปีละ 1 ครั้ง หลังสิ้นปีงบประมาณ

โดยในครั้งแรกที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สกสค. คือ วันที่ 1 ธ.ค. 2563 ทำงานไปได้ 6 เดือน คณะกรรมการประเมินชุดเดิมได้ประเมินให้ผ่านการทำงาน ทว่า ในภายหลังรู้สึกรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ เพราะคณะกรรมการชุดเดิมลาออกทั้งคณะ

 

“ก่อนที่คณะกรรมการชุดเดิมจะลาออก การเมืองมีการเปลี่ยนแปลง นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ พ้นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ต่อมา น.ส.ตรีนุช เทียนทอง เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีฯ คนใหม่  คณะกรรมการที่ประเมินชุดเดิมจึงลาออกทั้งหมด เป็นเหตุให้มีการตั้งคณะกรรมการประเมินชุดใหม่ ซึ่งในเวลานั้นมีการคัดค้านไปครั้งหนึ่งแล้ว”

 

เลขาธิการ สกสค. ระบุถึงเหตุผลการคัดค้านว่า เนื่องจากมีคณะกรรมการชุดใหม่บางท่านไม่มีความเป็นกลาง เพราะเคยมีกรณีที่เคยมาเป็นกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ในเรื่องกล่าวหาตนเองทุจริตในการสรรหา ผอ.สกสค. อุบลราชธานี หนองคาย และอำนาจเจริญ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแค่อยู่ในขั้นตอนการรับสมัครผู้สนใจจะมาเป็นเท่านั้น สุดท้ายเรื่องนี้พอสืบสวนข้อเท็จจริงจบก็ยุติว่า “ไม่มีการทุจริต”

“หนึ่งในคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ตอนที่สอบปากคำตนเองนั้น มีความรู้สึกว่าไม่เป็นกลาง และมีคำถามที่ทำให้รู้สึกว่า ไม่ยุติธรรม นั่นเป็นเหตุให้พอได้มาเป็นคณะกรรมการประเมินผลงาน 6 เดือนหลัง จึงเห็นว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เลยคัดค้าน แต่สุดท้ายผู้มีอำนาจยังยืนยันที่จะใช้คณะกรรมการชุดนี้ประเมิน” ธนพร กล่าว 

พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า หลังจากนั้นมีการส่งเอกสารที่เป็นเกณฑ์ใช้ประเมินส่งมาให้รับทราบ และออกแบบฟอร์มที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มาให้เซ็นยินยอมว่า จะประเมินด้วยวิธีแบบนี้ ซึ่งไม่เซ็น เนื่องจากอ่านหลักเกณฑ์ประเมินแล้ว เป็นไปไม่ได้ในการผ่านตั้งแต่ต้น

เลขาธิการ สกสค. กล่าวยกตัวอย่างเกณฑ์ประเมิน หากทำตามแผนที่เสนอต่อบอร์ด สกสค. ว่า จะทำตามแผนแบบนี้ ถ้าทำได้ตามแผนจะให้แค่ 3 จากเต็ม 5 คะแนน แต่กำหนดว่า จะผ่านการประเมินในครั้งที่สองได้ ต้องได้ 4 คะแนน

แสดงว่า แผนที่เขียนเสนอไปก่อนเริ่มงาน ถ้าทำได้หมดตามนั้นได้แค่ 3 จากเต็ม 5 คะแนน แต่ถ้าจะผ่าน ต้องได้ 4 คะแนน นั่นหมายความว่าเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าจะผ่านได้ต้องทำให้ได้มากกว่าที่แผนเสนอ ซึ่งจริง ๆ แล้ว วิธีการประเมินแบบนี้ จะเป็นมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ใช้ประเมินหน่วยงาน ซึ่งทำได้เหมือนกัน แต่ต้องตกลงกับผู้ถูกประเมินให้ทราบก่อนว่า คุณทำขั้นกว่า

สมมติแผนบอกว่า คุณมีหอพัก สกสค.ไว้บริการครู ต้องการให้คุณบริการครูใน 1 ปี ต้องได้ 1.4 แสนคน เป็นต้น ถ้าทำได้ จะได้ 3 คะแนน หากทำได้มากกว่า จะได้ 4 คะแนน ถ้าทำได้แบบเป็นสถิติใหม่ จะได้ 5 คะแนน “ถ้าตกลงกันก่อนเริ่มงาน ผมพร้อมที่จะทำ เอกสารบอกว่า ถ้าทำได้ขั้นกว่า จะได้โบนัสเพิ่มในสัญญาจ้าง”

ธนพร ขยายความอีกว่า สิ่งผิดปกติสองอย่างที่ชี้ให้เห็น คือ ทำได้ตามแผน ได้ 3 คะแนน แต่กำหนด 4 คะแนน จึงจะผ่าน และหากจะได้ 4 ต้องทำขั้นกว่า “แต่ทั้งหมดที่พูดเป็นกติกาที่ออกมาภายหลังงานเสร็จหมดแล้ว” ฉะนั้น นี่คือการประเมินย้อนหลัง แต่ออกกติกาย้อนหลัง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่สามารถย้อนเวลากลับไปทำขั้นกว่าได้แล้ว จึงไม่สามารถเข้าร่วมการประเมินที่ไม่เป็นธรรมได้

 

“ผมส่งเล่มเมื่อวานนี้ (23 พ.ย. 2564) ไม่ได้ เพราะกำลังคัดค้านอยู่ หากส่งเล่มจะถือว่าขัดกัน และเท่ากับการยอมรับกติกาในการลงเสนอผลงาน ซึ่งความจริงเสร็จหมดแล้ว แต่ที่เสร็จ เพราะว่าเราทำงาน รวบรวมผลงานไว้ตลอดเวลา”

 

ถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมีต้นตอจากการขัดแย้งกับ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง หรือไม่ เลขาธิการ สกสค. ระบุ ไม่ขัดแย้ง เพราะตนเองเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ยืนยันว่า “คัดค้านเกณฑ์ประเมิน ไม่ได้คัดค้าน น.ส.ตรีนุช”  ด้วยความส่วนตัวก็เคารพในฐานะผู้บังคับบัญชา ความขัดแย้งส่วนตัวจึงไม่เคยมี

เลขาธิการ สกสค. กล่าวถึงกระบวนการหลังจากนี้ว่า น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการ สกสค. (บอร์ด สกสค.) มีคำสั่งให้จัดประชุมบอร์ด สกสค. เพื่อวินิจฉัยเรื่องดังกล่าว ในวันศุกร์ ที่ 26 พ.ย. 2564 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ

ทั้งนี้ หากคณะกรรมการยืนยันว่า ใช้หลักเกณฑ์เดิม ธนพร ยืนยันว่า คงไม่เข้ารับการประเมินเกณฑ์ครั้งนี้  เพราะเป็นไม่ได้ที่จะผ่านการประเมิน ส่วนการฟ้องศาลนั้น ต้องขอปรึกษาทางกฎหมายก่อน