ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวม 14 จังหวัด ประสานเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย
 
 
วันที่ 22 ต.ค. 2564 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวม 14 จังหวัด โดยร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 17 - 19 ต.ค. 2564 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 10 จังหวัด 43 อำเภอ 157 ตำบล 724 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,205 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ นครปฐม และสระแก้ว
 
ส่วนอิทธิพลพายุ “คมปาซุ” ตั้งแต่วันที่ 15 – 17 ต.ค. 2564 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก 6 จังหวัด 12 อำเภอ 33 ตำบล 112 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,326 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด (ลพบุรี และปราจีนบุรี)
 
ขณะที่อิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 7 ต.ค. 2564 ทำให้เกิดอุทกภัย รวม 33 จังหวัด รวม 226 อำเภอ 1,206 ตำบล 8,265 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 339,346 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 17 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 27 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด (มหาสารคาม สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี) ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป
 
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 17 - 19 ต.ค. 2564 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สระแก้ว ชลบุรี สมุทรปราการ นครปฐม และกาญจนบุรี รวม 43 อำเภอ 157 ตำบล 724 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,205 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด รวม 30 อำเภอ 135 ตำบล 647 หมู่บ้าน 13,134 ครัวเรือน ดังนี้
 
1. ชัยภูมิ น้ำท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อ.คอนสวรรค์ คอนสาร บ้านเขว้า ภูเขียว บ้านแท่น จัตุรัส เกษตรสมบูรณ์ เนินสง่า และ อ.เมืองชัยภูมิ ระดับน้ำทรงตัว
 
2. นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ อ.โนนสูง สีคิ้ว พิมาย สูงเนิน ปักธงชัย คง เมืองนครราชสีมา เมืองยาง ประทาย และ อ.โนนไทย ระดับน้ำทรงตัว
 
3. บุรีรัมย์ น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.นางรอง เมืองบุรีรัมย์ และ อ.เฉลิมพระเกียรติ ระดับน้ำลดลง
 
4. ศรีสะเกษ น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ภูสิงห์ ขุนหาญ และ อ.ขุขันธ์ ระดับน้ำทรงตัว
 
5. นครปฐม น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.บางเลน นครชัยศรี และ อ.สามพราน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
 
6. สระแก้ว น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองสระแก้ว และ อ.วัฒนานคร ระดับน้ำลดลง
 
ส่วนอิทธิพลพายุ “คมปาซุ” เมื่อวันที่ 15 -17 ต.ค. 2564 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ตาก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ลพบุรี ปราจีนบุรี และนครนายก รวม 12 อำเภอ 33 ตำบล 112 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,326 ครัวเรือน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 2 จังหวัด 5 อำเภอ 9 ตำบล 28 หมู่บ้าน 407 ครัวเรือน ดังนี้
 
1. ลพบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ชัยบาดาล และ อ.บ้านหมี่ ระดับน้ำลดลง
 
2. ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองปราจีนบุรี ประจันตคาม และ อ.กบินทร์บุรี ระดับน้ำลดลง