ไฟเขียวผู้ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ต้องฉีดเข็ม 3 กระตุ้น ฉีดได้ทั้งวัคซีนแอสตร้าฯ และ วัคซีน mRNA ทั้งนี้ต้องรอผลสรุปอย่างเป็นทางการต่อไป

 

วันที่ 21 ต.ค. 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการฉีดวัคซีนเข็ม 3 หรือเข็มกระตุ้นว่า 2 ประเด็น ที่คณะอนุกรรมการฯ ประชุมคือ 1. องค์การอนามัยโลกแนะนำการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือเข็มที่ 3 ซึ่งประเทศไทยส่วนใหญ่ฉีดเชื้อตาย คือ ซิโนแวค 2 เข็ม พบว่าฉีดระยะหนึ่งภูมิลดลง การฉีดเข็มกระตุ้นจึงเกิดประโยชน์ โดยไทยฉีดต่างชนิดด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ที่เป็นไวรัสเวกเตอร์ ทั้งนี้ การฉีดปูพื้นด้วยเชื้อตาย และฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนอีกชนิดช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันสูงมาก

 

"ประเทศไทยจะฉีดเข็มกระตุ้นชนิดต่างกันจากเข็มปูพื้นตอนต้น เช่น เราฉีดเชื้อตายก่อน จากนั้นตามด้วยไวรัสเวกเตอร์ หรือ mRNA ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ตามวัคซีนที่เรามี สอดคล้องกับคำแนะนำองค์การอนามัยโลกซึ่งประเทศไทยทำล่วงหน้าไปแล้ว"

 

2. การฉีดกระตุ้นในกลุ่มที่ฉีดวัคซีนเชื้อตายซิโนฟาร์ม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) จุฬาภรณ์ ได้มาให้ข้อมูล ว่าขณะนี้มีคนฉีดซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ไประยะหนึ่งพอสมควร และแนวโน้มการฉีดกระตุ้นจะเป็นอย่างไร โดยคณะอนุกรรมการฯ มีความเห็นว่าการพิจารณาคนฉีดซิโนฟาร์มซึ่งเป็นเชื้อตายแบบเดียวกับซิโนแวค

หลักคิดให้ใช้หลักการเดียวกัน คือ กลุ่มฉีดซิโนแวค ฉีดเข็มที่ 3 ให้คนที่ฉีดครบ 2 เข็ม เกิน 3-4 เดือนขึ้นไป เช่น เดือน มี.ค.ฉีดครบ 2 เข็ม ก็ฉีดกระตุ้นในเดือน ก.ย.-ต.ค. ดังนั้น กลุ่มฉีดซิโนฟาร์มครบ 2 เข็ม ช่วงเดือน ก.ค.เป็นต้นไป จะกำหนดฉีดเข็มกระตุ้นประมาณปลายพ.ย.ถึงต้น ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป

โดยคณะอนุกรรมการฯ ขอให้ รพ.จุฬาภรณ์ ส่งข้อมูลเอกสารหลักฐานที่มีการศึกษาพบว่า จำเป็นต้องฉีดเข็มกระตุ้น เนื่องจากภูมิคุ้มกันลดลง พร้อมเร่งให้ทาง รพ.จุฬาภรณ์ ทำข้อมูลประกอบก่อนที่จะมีการประกาศให้ประชาชนได้ฉีดต่อไป หากทาง รพ.จุฬาภรณ์ ส่งข้อมูลครบถ้วนเมื่อไร คณะอนุกรรมการฯ จะรีบพิจารณาและประกาศฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นต่อไป