รวบสาวแสบวัย 21 ปี แฮ็กเฟซบุ๊กเหยื่อขอยืมเงินเพื่อน เจ้าตัวรับสารภาพค้นข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ทำมาแล้วกว่า 150 ครั้ง พบผู้เสียหายรายเดียวสูญเงินถึง 20,000 บาท

 

ว่าที่ พ.ต.ต.สรัล ยศพลพิเนต สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(สว.กก. 1 บก.ปอศ.) พร้อมตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นางสาวนฤมล (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ลงวันที่ 27 มิ.ย.2562 ฐานความผิด "ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, กระทำความผิดโดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จโดย ประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน" โดยจับกุมได้บริเวณหน้าห้องพัก ถนนสุวินทวงศ์ 5/3 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 11 ก.ค.2560 ผู้เสียหายได้รับข้อความจากเพื่อนผ่านทางเฟซบุ๊กและไลน์ ว่าต้องการจะขอยืมเงินจากผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายเข้าใจว่าเป็นเพื่อน จึงโอนเงินไปให้จำนวน 20,000 บาท

ต่อมาผู้เสียหายติดต่อไปหาเพื่อนคนดังกล่าวอีกครั้ง และทราบว่าเพื่อนไม่ได้ใช้เฟซบุ๊กและไลน์ดังกล่าว ส่งข้อความมาขอยืมเงินกับผู้เสียหายแต่อย่างใด เนื่องจากมีคนร้ายเเฮ็กเฟซบุ๊กและไลน์ของเพื่อน เมื่อเชื่อว่าถูกหลอก ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว พนักงานสอบสวนทำการสืบสวนจนทราบตัวผู้กระทำความผิด จากนั้นจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอให้ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว

กระทั่งวันที่ 20 ต.ค.2564 ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้หลบหนีมาเช่าห้องพักอยู่บริเวณย่านมีนบุรี จึงนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณหน้าห้องพักดังกล่าว จึงทำการจับกุมตัว

เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าได้ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายจริง โดยจะหาข้อมูลของเป้าหมายจากระบบอินเทอร์เน็ต และเข้าใช้งานเฟซบุ๊กหรือไลน์ของเป้าหมาย เมื่อเข้าใช้งานได้แล้วก็จะขอยืมเงินจากเหยื่อซึ่งเป็นคนรู้จักของเป้าหมาย โดยผู้ต้องหายอมรับว่าเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 150 ครั้ง เงินที่ได้มาก็นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เนื่องจากไม่ได้ประกอบอาชีพใด เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกัน เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหานี้เคยกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง โดยเมื่อถูกจับกุมก็จะคืนเงินให้กับผู้เสียหาย เพื่อให้ผู้เสียหายถอนแจ้งความ แต่สุดท้ายก็กลับมาก่อเหตุในลักษณะนี้ซ้ำอีก

ทั้งนี้ บก.ปอศ. ขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว สามารถเข้าชี้ตัวและแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ พร้อมกับขอเตือนภัยประชาชนในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดียทั้งเฟซบุ๊ก และแอปพลิเคชันไลน์ ควรระมัดระวังปกปิดข้อมูลส่วนตัว เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ ไม่ควรกดยินยอมให้มีการจดจำชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านเมื่อลงทะเบียนเข้าใช้งาน และควรออกจากบัญชีทุกครั้งที่เลิกใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพนำไปใช้ก่ออาชญากรรม และสำหรับกรณีการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้กับผู้อื่น ให้สันนิษฐานว่าบัญชีธนาคารดังกล่าวอาจจะถูกนำไปใช้ในการกระทำผิดได้ ซึ่งผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารก็จะมีความผิดตามกฎหมายไปด้วย หากประชาชนท่านใดมีเบาะแส หรือได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลเข้ามาได้ที่ บก.ปอศ. ถ.สาทร แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. 10500 โทร. 022341068 หรือเพจเฟซบุ๊ก กก.1 บก.ปอศ.