สะเทือนทั้งจังหวัด! เปิดยุทธการ "จันทบูร" ลุยค้น 9 จุด บุกจับนายก อบจ.จันทบุรี - พระครูปลัดฯ พร้อมพวก ทุจริตเงินสนับสนุนพุทธมณฑล

 

วันนี้ (19 ต.ค.2564) เมื่อเวลา 06.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการตำรวจป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการ "จันทบูร" นำหมายค้นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 9 จุด ในพื้นที่ จ.จันทบุรี เพื่อเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตงบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑล จ.จันทบุรี มาแจ้งข้อกล่าวหา ตามความผิดมาตรา 157 ฐานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริตฯ และมาตรา 151  ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ

จากปฏิบัติการเข้าตรวจค้นทั้ง 9 จุด เจ้าหน้าที่พบตัวผู้กระทำผิดพร้อมกับเชิญตัวมาทำการแจ้งข้อกล่าวหาได้ทั้งหมดจำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายธนภณ กิจกาญจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี, นายภูวนาถ บำรุงพันธุ์ อดีต ผอ.กองแผน, พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ หรือ พระครูปลัดณัฐดนัย เจ้าอาวาสวัดสุทธิวารี เจ้าคณะอำเภอสอยดาว และ กรรมการมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี และนายเกศสยาม ร่วมดี หจก.สยามช่างบูรพา พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินมีค่าเอกสารต่าง ๆ ได้อีกเป็นจำนวนมาก

 

 

โดยเป้าหมายสำคัญในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ อยู่ที่บ้านเลขที่ 45 และ บ้านเลขที่ 8/2 ถ.เทศบาลสาย 3 ต.ท่าใหม่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายธนภณ ลักษณะเป็นบ้านหรู มีรั้วรอบขอบชิด ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงจึงแสดงหมายค้นเข้าตรวจสอบ ก่อนพบนายธนภณ กำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพัก จึงเชิญตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาที่ สภ.เมืองจันทบุรี

จุดที่สอง เข้าตรวจค้นกุฏิสงฆ์ของพระครูปลัดณัฐดนัยตั้งอยู่ภายในวัดสุทธิวารี พื้นที่ ม.10 ถ.พระยาตรัง ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี เมื่อไปถึงพบ พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ อยู่ภายในกุฏิดังกล่าว จึงแสดงหมายเข้าตรวจค้น พร้อมอธิบายข้อกฎหมายให้เข้าใจ จากนั้นจึงนิมนต์มารับทราบข้อกล่าวหา

 

 

สำหรับปฏิบัติการดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อต้นปี 2564 ที่ผ่านมา กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการทุจริตเงินงบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑล จ.จันทบุรี ที่ได้รับจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี หรือ อบจ.จันทบุรี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมูลนิธิฯ เมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส พร้อมสอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ จนพบความผิดปกติเรื่องเงินงบประมาณสนับสนุนประจำปี 2554-2555 ในส่วนการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานมูลนิธิฯ เนื่องจากตรวจสอบเอกสารรายงานงบประมาณจัดจ้างและเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ พบตัวเลขเงินที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารดังกล่าวไม่ตรงกับจำนวนเงินงบประมาณที่เบิกจ่าย จึงแกะรอยสืบหาเบาะแสและพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อนพบความเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการระดับสูง รวมถึงพระชั้นผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งอยู่ในมูลนิธิฯ

โดยการทุจริตดังกล่าว เริ่มต้นจาก นายธนภณ ในฐานะนายก อบจ.จันทบุรี ได้อนุมัติเงินงบประมาณอุดหนุนของ ปีงบประมาณ 2554 และปีงบประมาณ 2555 รวมจํานวน 30 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิพุทธมณฑล จ.จันทบุรี เมื่อได้รับเงินอุดหนุนจํานวนดังกล่าวแล้ว มูลนิธิฯ ได้ว่าจ้าง หจก.สยามช่างบูรพา ก่อสร้างอาคารสํานักงานมูลนิธิฯ เพียง 12.7 ล้านบาทเศษ คงเหลือเงินอีกจํานวน 17.26 ล้านบาทเศษ ซึ่งเงินในจำนวนนี้ทางมูลนิธิฯ ต้องส่งคืนให้กับ อบจ.จันทบุรี แต่นายธนภณ ซึ่งในอีกบทบาทหนึ่งยังดํารงตําแหน่งเป็นกรรมการและเลขานุการของ มูลนิธิฯ มีหน้าที่ควบคุมกิจการของมูลนิธิฯ ตลอดจนรายงานกิจการของมูลนิธิฯ ตามกฎหมาย และทราบข้อเท็จจริงนี้เป็นอย่างดี กลับไม่ยอมส่งคืนเงินที่เหลือดังกล่าวกลับคืนให้กับ อบจ.จันทบุรี ต่อมาได้ให้นายภูวนาถ อดีต ผอ.กองแผน และ งบประมาณ อบจ.จันทบุรี และเจ้าหน้าที่ของ อบจ.จันทบุรี มาจัดทําเอกสารให้กับมูลนิธิฯ ด้วยการทําสัญญาจ้างก่อสร้าง ค่าจ้าง 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทำเอกสารเท็จขึ้นมา โดยมีพระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ ที่มีตำแหน่งเป็นกรรมการและผู้ช่วยเหรัญญิกมูลนิธิ กับนายเกศสยาม ร่วมกระทำผิดด้วย จากนั้นจึงนำสัญญาเท็จที่ทำขึ้นมาฉบับดังกล่าวไปแนบประกอบรายงานผลการดําเนินการให้ อบจ.จันทบุรี เพื่ออำพรางปกปิดการทุจริต นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า ที่ผ่านมามูลนิธิดังกล่าวยังไม่เคยรายงานข้อมูลการดําเนินงานเกี่ยวกับการประชุมใหญ่สามัญประจําปีอีกด้วย

สำหรับพุทธมณฑลประจำจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.8 ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2552 ปัจจุบันมีสิ่งปลูกสร้างอาคารสำหรับปฏิบัติธรรมต่าง ๆ มากมาย ทั้งนี้จากการตรวจสอบเงินงบประมาณที่มูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี ได้รับจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี (อบจ.จันทบุรี) เฉพาะเพียงจากวันที่ก่อตั้งเมื่อปี 2552 ถึงปี 2556 ช่วงระยะเวลาประมาณ 5 ปี พบ ได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 106 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับเงินงบประมาณตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบว่านอกเหนือจากโครงการดังกล่าวที่ถูกทุจริตแล้ว ยังมีการทุจริตเงินงบประมาณโครงการอื่นอีกหรือไม่