อ.เกษตรสมบูรณ์ ยังอ่วมหนักเป็นวันที่ 2 หลังอิทธิพลพายุ “คมปาซุ” ถล่ม ขณะที่เขื่อนจุฬาภรณ์ หยุดปล่อยน้ำแล้ว เหลือเพียงเขื่อนโนนเขวาที่ยังปล่อยน้ำ 7 แสน ลบม.ต่อชั่วโมง

 

(18 ต.ค.2564) จากอิทธิพลพายุโซนร้อนกำลังแรง “คมปาซุ” ทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วทั้ง จ.ชัยภูมิ ฝนที่ตกหนักบนเทือกเขาเขียว เขต อ.เกษตรสมบูรณ์ ทำให้มีปริมาณน้ำในเขื่อนจุฬาภรณ์ อ.คอนสาร เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเต็มความจุเขื่อน 100 % ต้องยกประตูบานระบายน้ำออกจากตัวเขื่อนไม่ให้เกินความจุ ที่ 164 ล้าน ลบ.เมตร ซึ่งน้ำที่ปล่อยลงท้ายเขื่อนไหลไปตามลำน้ำพรม สู่เขื่อนห้วยกุ่ม ต่อไปยังฝายน้ำล้นโนนเขวาและล้นสันฝาย ทำให้มีมวลน้ำมหาศาลไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนประชาชนที่น้ำไหลผ่านมา

จากสถานการณ์ล่าสุด มวลน้ำมหาศาลยังคงท่วมสูงติดต่อกันนานถึง 2 วัน โดยเฉพาะบริเวณหน้าสถานที่ราชการ หน้าโรงพยาบาล อ.เกษตรสมบูรณ์ และ หน้า สภ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ น้ำยังคงท่วมสูง ไหลเชี่ยว ประชาชนยังคงต้องเดินทางด้วยรถสูงเท่านั้น รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้

เจ้าหน้าที่ อส. เร่งน้ำข้าวกล่องและน้ำดื่มลงไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยในพื้นที่อำเภอเกษตรสมบูรณ์ และ เขตตำบลบ้านยาง และ เขตตำบลโนนทอง

ด้าน นายกำพล ฝ้ายขาว ผู้ช่วย หน.กองเขื่อนจุฬาภรณ์ ระบุว่า เช้านี้น้ำในเขื่อนจุฬาภรณ์ น้ำสุทธิเต็มอ่าง จำนวน 163 ล้าน ลบม. ทรงตัวได้ หยุดปล่อยน้ำแล้ว  คงปล่อยแต่เขื่อนห้วยกุ่ม ชั่วโมงละ 700,000 ลบม. หากฝนไม่ตกลงมาอีกก็จะไม่มีปัญหาอะไร โดยน้ำจากเขื่อนจุฬาภรณ์ที่ไหลลงไปเขื่อนห้วยกุ่ม ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง อีกไม่เกิน 3 วัน น้ำก็จะไหลไปถึงอ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ลงไป อ.บ้านแท่น ต่อจากนั้นก็จะไหลลงไปเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น อยากให้ประชาชนที่อยู่ติดลำน้ำพรมเตรียมการระวังมวลน้ำนี้เอาไว้ ในส่วนอ.เกษตรสมบูรณ์ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลเกษตรสมบูรณ์ มวลน้ำก็ทรงตัวและยังท่วมเท่าเดิม คงต้องรออีก 3-4 วัน คงเข้าสู่ปกติ หากฝนไม่ตกลงมาอีก