'อนุทิน' รอผลวิจัยวัคซีนเด็ก 3 ขวบ หากปลอดภัย มีประสิทธิภาพ พร้อมจัดหาเข้าไทย ย้ำนโยบายต้องฉีดให้ครอบคลุม เเจงปมรับบริจาคไฟเซอร์จากสหรัฐฯ เป็นไปตามขั้นตอน ไม่อยากให้ขยายความ ปัจจุบันข่าวมาก หากไม่รู้จะเชื่อใคร ให้เชื่อ สธ.

 

วันที่ 24 ก.ย.2564 ที่ศูนย์ฉัดวัคซีนสถานีรถไฟกลางบางซื่อ กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารฯ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการให้บริการวัคซีนโควิด-19

นายอนุทิน กล่าวถึงแผนการบริหารวัคซีนว่า ตอนนี้ต้องเร่งฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ปัจจุบันสามารถฉีดได้วันละ 6-8 แสนโดส แต่ในอนาคตคาดว่าจะฉีดวัคซีนได้มากขึ้น การให้บริการวัคซีนมีทั้งเข็มแรก เข็ม 2 และเข็มบูสเตอร์ ภาครัฐได้จัดหาวัคซีนมาเพื่อตอบสนองความต้องการ และวัคซีนก็เข้ามาเรื่อย ๆ ตามที่ตกลงกันไว้

ข้อดีของไทย คือ การมีโรงงานผลิตในประเทศ ซึ่งจะช่วยให้สามารถมีวัคซีนในมือเป็นจำนวนมาก การที่ต้องรับมือกับเชื้อสายพันธุ์เดลตา ทางไทยได้ปรับสูตรวัคซีนไปจนถึงการฉีดเข็ม 3 แต่ต้องยอมรับว่า ไม่สามารถกดยอดผู้ติดเชื้อให้เหลือศูนย์ได้ แต่การฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง จะทำให้ช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ

รมว.สธ. ยังระบุนโยบายที่สำคัญอีกเรื่องคือการให้บริการวัคซีนอย่างครอบคลุม วันนี้เราจะให้บริการแก่เด็กอายุ 12 ปี ด้วยวัคซีนที่ผ่านการรับรองจาก อย. ซึ่งทางผู้ผลิตมาขึ้นทะเบียนว่าฉีดในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้ และล่าสุด มีรายงานว่าผู้ผลิตหลายรายกำลัง ศึกษาการให้วัคซีนแก่เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป ทางการไทยติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และถ้ามีผลการศึกษายืนยันเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย ทางการไทยต้องนำมาให้บริการ เพราะอย่าลืมว่าโควิด-19 สามารถติดได้ในทุกช่วงอายุ

เมื่อถามถึงเรื่องการคลายล็อกเปิดเมือง นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้สนใจเรื่องเร่งฉีดวัคซีนเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าฉีดได้ครอบคลุมตามเป้าหมาย การคลายล็อกต่าง ๆ จะต้องตามมา ทั้งนี้ เราต้องคิดเรื่องการอยู่กับโรคแล้ว เมื่อฉีดวัคซีนได้ทั่วถึง ผู้ป่วยหนักจะน้อยลงมาก การเสียชีวิตจะน้อยลงมาก ด้วยเงื่อนไขตรงนี้ต้องมาดูว่า จะเดินหน้ากันอย่างไรต่อไป เราต้องเข้าใจโรค และอยู่ด้วยกันได้อย่างปลอดภัย ขณะที่เศรษฐกิจไทยสามารถไปต่อ

รมว.สธ. ยังกล่าวถึงข้อสงสัยเรื่องการบริจาควัคซีนโควิดฯ จากสหรัฐฯ ระบุว่า ไม่มีใครดึงเรื่องให้ช้าอย่างที่เป็นข่าวแน่นอน ตอนนี้ต้องการให้คนทำงาน คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริง ๆ ได้ปฏิบัติหน้าที่ ที่ผ่านมาทำได้ดีมาตลอด ควรให้ได้ทำงานอย่างสบายใจ

ขอย้ำว่า การประสานเรื่องบริจาควัคซีน มีขั้นตอนต้องปฏิบัติ ไทยต้องรอให้ผู้บริจาคติดต่อแจ้งความจำนงมาที่กระทรวงการต่างประเทศ ทางกระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับทราบ และทางกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นคนพิจารณารับเงื่อนไข ไปจนถึงขั้นการรับบริจาคทุกอย่าง หากมาตามขั้นตอน ใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ทางผู้บริจาคมีเจตนาดี ประเทศไทยก็มีเจตนาดี ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี ไม่อยากให้ไปขยายความ ตอนนี้ข่าวสารมีมากมาย หากไม่รู้จะเชื่อใคร ให้เชื่อกระทรวงสาธารณสุข เราเป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลเรื่องการจัดหาวัคซีน การรับบริจาคครั้งที่แล้ว เมื่อทางนั้นส่ง Diplomatic Note มา ใช้เวลาเพียง 3 สัปดาห์ วัคซีนจะมาถึงเลย เรื่องแบบนี้ใช้เวลาไม่นาน

 

“อย่าลืมว่าเราเป็นผู้รับ ต้องรอให้มีการเสนอเข้ามาก่อน ที่บอกว่าเราช้า ไม่ยอมคอนเฟิร์มนั้น ไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมาเรามีประสบการณ์มากพอ และรู้ว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร เราเคยรับบริจาคจากสหรัฐฯ มาแล้ว 1 ครั้ง เคยรับการช่วยเหลือจากอังกฤษ ญี่ปุ่น และจีน กระบวนการไม่ต่างกัน ถ้ามีเอกสารแสดงความจำนงในการบริจาคมา ไทยพร้อมพิจารณาและเร่งดำเนินการทันที อันที่จริง ไม่ควรพูดเรื่องนี้มาก เพราะเกรงว่าจะไปกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ” นายอนุทิน กล่าวในที่สุด