ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เริ่มนำร่องฉีด 'วัคซีนซิโนฟาร์ม' ให้เด็ก ประเดิมวันเยาวชนแห่งชาติ สร้างภูมิคุ้มกันก่อนเปิดเรียน

วันนี้ (20 ก.ย.2564) ซึ่งตรงกับวันเยาวชนแห่งชาติ นักเรียน อายุ 10-18 ปี ที่เข้าร่วมโครงการ “VACC 2 School” สร้างภูมิคุ้มกัน เตรียมพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน กับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กว่า 2 พันคน จากโรงเรียนสตรีวิทยา ศูนย์การเรียนรุ่งอรุณ และโรงเรียนสันติสุขวิทยา ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มแล้ว ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ บมจ.โทรคมนาคม อาคาร 9 ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

เบื้องต้นไม่มีเด็กคนใดมีอาการข้างเคียง มีเพียงอาการประหม่า หรือตื่นเต้น และจะมีการติดตามอาการผ่าน sms สอบถามภายใน 1 วัน 7 วัน และ 30 วัน

โครงการ “VACC 2 School” นำร่องฉีดวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” จัดขึ้นเพื่อติดตามศึกษาผลของวัคซีนและการกลับคืนสู่การศึกษาปกติอย่างเป็นระบบ ผ่านการเปิดรับสมัครให้สถานศึกษา ยื่นความประสงค์ขอรับการจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์ม ให้แก่กลุ่มนักเรียนในสังกัดในกรุงเทพและปริมณฑล โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

 

 

ทั้งนี้ มีสถานศึกษายื่นสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 2 รอบ รวม 132 โรงเรียน คิดเป็นจำนวนนักเรียนทั้งหมด 108,319 ราย โดยมีกำหนดเริ่มนัดฉีดตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน จนถึงกลางเดือนตุลาคม 2564 และสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มแรกในวันนี้ จะเว้นระยะเวลาการฉีดในเข็มที่ 2 ประมาณ 3 สัปดาห์

 

 

ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า “การจัดฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เด็กและเยาวชนในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิจัยใน 2 ประเด็น คือ ศึกษาดูอาการข้างเคียง และการป้องกันการระบาดในโรงเรียน และในครอบครัวของเด็ก ซึ่งประเทศไทยจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม แม้จะมีข้อมูลในต่างประเทศอยู่แล้วก็ตาม ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ การระบาดในเด็กจะไม่มีอาการรุนแรง และการเสียชีวิตก็น้อย ซึ่งในจำนวนเด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 คิดเป็นร้อยละ 13 จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด แต่ที่ทางนักวิชาการทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ไม่ได้คำนึงถึงกัน คือ เรื่องของสังคม ซึ่งเด็กต้องไปโรงเรียน และเจอเพื่อน ๆ โดยดูประเด็นเรื่องผลวัคซีนแต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้ และหวังว่าข้อมูลจากผลการศึกษานี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะทำการรับรอง เพราะต้องการให้ใช้ในต่างจังหวัด เพื่อลดช่องว่างทางการศึกษาของเด็ก

ส่วนการเลือกวัคซีนสำหรับเด็กก็จะเลือกวัคซีนที่มีผลข้างเคียงน้อย เพื่อให้เด็กกลับไปใช้ชีวิตปกติโดยเร็ว ทั้งนี้ เรื่องการติดตามอาการผลข้างเคียงหลังรับวัคซีน จะใช้ระบบเหมือนผู้ใหญ่ คือ การส่งข้อความไปสอบถาม โดยจะมีผู้ปกครอง และโรงเรียนที่มีผู้รับผิดชอบตามที่ได้กำหนดไว้ และอีกส่วนคือ การติดตามเรื่องการติดเชื้อในครอบครัว หรือที่โรงเรียน ก็จะมีการสอบถามไปเช่นกัน ส่วนเรื่องความปลอดภัยหลังการรับวัคซีนนั้น วัคซีนซิโนฟาร์มเป็นวัคซีนเชื้อตาย มีความปลอดภัยสูง อาการข้างเคียงที่จะพบในเด็กที่ได้รับการฉีดวัคซีนต่ำ เช่น อาจมีไข้ เจ็บบริเวณที่ฉีดวัคซีน แต่ความรุนแรงนั้นต่ำกว่าวัคซีนอื่น ๆ

ในส่วนของการเตรียมตัวเพื่อเข้ารับวัคซีนนั้น ขอให้เด็กได้ดื่มน้ำ และพักผ่อนอย่างเพียงพอ งดการออกกำลังกายหนักทั้งก่อน-หลังฉีดวัคซีน และผู้ปกครองเองก็ไม่ควรวิตกกังวลจนเกินไป เพราะอาจเกิดความเครียดที่ส่งมาถึงเด็กได้” ศ.นพ.นิธิ กล่าว