กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จออกแทนพระองค์ พระราชทานโล่-เครื่องหมายเชิดชูเกียรติแก่ศิลปินแห่งชาติ ปี 63
วานนี้ เวลา 09.15 น. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จออกแทนพระองค์ ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ นำศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2563 จำนวน 12 คน เฝ้าทูลละอองพระบาทรับพระราชทานโล่และเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ตามลำดับดังนี้
1.สาขาทัศนศิลป์ จำนวน 4 คน ได้แก่
ศาสตราจารย์กิตติคุณกำจร สุนพงษ์ศรี (จิตรกรรม)
นายอำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ (จิตรกรรม - สื่อผสม)
นายประภากร วทานยกุล (สถาปัตยกรรมร่วมสมัย)
นายสำเริง แดงแนวน้อย (ประณีตศิลป์ - แกะสลักไม้)
2.สาขาวรรณศิลป์ จำนวน 2 คน ได้แก่
นายเอนก นาวิกมูล
นางสาวอรสม สุทธิสาคร
3.สาขาศิลปะการแสดง จำนวน 6 คน ได้แก่
นายประทีป สุขโสภา (เพลงพื้นบ้าน)
นายประเมษฐ์ บุณยะชัย (นาฏศิลป์ - โขน)
นายปี๊บ คงลายทอง (ดนตรีไทย)
นางสุดา ชื่นบาน (ดนตรีไทยสากล - ขับร้อง)
นางรุ่งฤดี เพ็งเจริญ (ดนตรีไทยสากล - ขับร้อง)
นายปง อัศวินิกุล (ผู้กำกับระบบเสียง - สร้างสรรค์ และบันทึกเสียงภาพยนตร์)
โอกาสนี้ ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรมและเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม พร้อมผู้เกี่ยวข้องร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย
จากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีทรงฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับศิลปินแห่งชาติ พุทธศักราช 2563 ทั้ง 12 คน คณะผู้เข้าเฝ้าฯ และมีพระ-ราชปฏิสันถารกับศิลปินแห่งชาติรวมทั้งคณะผู้เข้าเฝ้าฯ ตามพระราชอัธยาศัย
อนึ่ง กระทรวงวัฒนธรรม โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ดำเนินการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อปีพุทธศักราช 2528 ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของศิลปิน ว่าเป็นบุคคลสำคัญที่สร้างสรรค์ศิลปะอันงดงามไว้เป็นสมบัติของแผ่นดิน และเป็นเอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรมของชาติสืบต่อกันมายาวนาน
ปัจจุบันมีศิลปินได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ จำนวนรวม 331 คน โดยในปีพุทธศักราช 2563 กระทรวงวัฒนธรรม ได้คัดเลือกศิลปินผู้รังสรรค์ผลงานศิลปะอันล้ำค่า เป็นที่ประจักษ์แก่สังคม และประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ จำนวน 12 คน ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว 158 คน มีชีวิตอยู่ 173 คน
ศิลปินแห่งชาตินอกจากจะได้รับพระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติแล้ว ยังจะได้รับสวัสดิการได้แก่ เงินค่าตอบแทน เดือนละ 25,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ ค่ารักษาพยาบาลตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลโดยอนุโลม เว้นแต่มีสิทธิเบิกจากหน่วยงานอื่น ให้เบิกจากหน่วยงานนั้นก่อน ถ้าเบิกจากหน่วยงานนั้นได้ต่ำกว่าสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ให้มีสิทธิเบิกในส่วนที่ยังขาดอยู่ได้อีกภายในวงเงินไม่เกิน 1 เเสนบาท ต่อปีงบประมาณ ค่าช่วยเหลือเมื่อประสบสาธารณภัย ครั้งละไม่เกิน 5 หมื่นบาท ต่อครั้ง ค่าของเยี่ยมในยามเจ็บป่วยหรือในโอกาสสำคัญเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 3,000 บาท ต่อครั้ง และกรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือบำเพ็ญกุศลศพ รายละ 2 หมื่นบาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 1.5 เเสนบาท เป็นต้น