"สุทิน" ชี้ คำวินิจฉัยศาล รธน.จะส่งผลต่อการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 แน่นอน เตรียมรีบทำหนังสือขอให้รับฟังความเห็นกว้างขึ้น ยืนยันจะเดินหน้าให้มีการแก้ไขให้ได้

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการประชุมรัฐสภาในวันที่ 24-25 ก.พ. 2564 เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งกรรมาธิการได้พิจารณาเสร็จแล้วว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญรับญัตติ ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ไว้เพื่อพิจารณาว่า รัฐสภามีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งทางพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้มีการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ไว้หลายแง่มุม

โดยการที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้และจะไปพิจารณาในวันที่ 4 มีนาคม 2564 นั้น เป็นช่วงเวลาที่มีผลมีนัยยะในการที่จะพิจารณาในวาระที่ 3 โดยหากออกมาทางบวกการแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถเดินหน้าไปได้ แต่หากผลออกมาเป็นลบก็ส่งผลหลายเรื่อง ที่น่าห่วงมากสุดคือทางสังคม ที่จะชวนให้เกิดความขัดแย้งตามมา ทั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะรีบทำหนังสือให้ศาลรัฐธรรมนูญเปิดรับฟังความเห็นอย่างกว้างขวางมากขึ้น ตามมติที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเมื่อวานนี้

ทั้งนี้ นายสุทิน ยืนยันว่า จากการหารือทั้ง 3 ฝ่าย คือประธานรัฐสภา รัฐบาล และฝ่ายค้าน ได้ให้ความมั่นใจต่อกัน ว่าในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์นี้การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมจะต้องจบอย่างสมบูรณ์

นอกจากนี้ นายสุทิน ยังกล่าวถึงเนื้อหาสาระของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ว่า ยังมีอีกหลายประเด็นที่จะต้องมีการอภิปราย ซึ่งฝ่ายค้านจะเตรียมคนมาอภิปรายแสดงเหตุผลหักล้าง เช่น การได้มาของ ส.ส.ร. ซึ่งฝ่ายค้านต้องการให้ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง

แต่รัฐบาลและ ส.ว.เห็นว่า ควรจะแบ่งเป็นเขตย่อยอีก และเรื่องของการโหวตผ่าน ที่ร่างเดิมกำหนดไว้ใช้เสียง 3ใน 5 แต่กรรมาธิการปรับแก้เป็น 2 ใน 3 ซึ่งฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย จึงเตรียมแสดงเหตุผลเพื่อให้กลับไปเป็น 3 ใน 5 รวมถึงประเด็นกรอบเวลาในการยกร่างที่กรรมาธิการกำหนดไว้ 240 แต่ฝ่ายค้านก็อาจจะขอให้เร็วขึ้นอีก

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายประเด็นที่พรรคร่วมฝ่ายค้านไปแปรญัตติไว้ จึงให้แต่ละพรรคไปสรุปประเด็นแล้วมาหารือกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญฝ่ายค้านจะออกเป็นมติ เพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

นายสุทิน ยังยืนยันว่า หากศาลมีคำวินิจฉัยออกมาหรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่สำเร็จ ก็จะไม่ยอมแพ้ จะยังคงเดินหน้าผลักดันเพื่อให้เกิดการแก้ไขให้ได้ เพราะการมาเป็น ส.ส. ครั้งนี้ คือ ต้องผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ แต่หากทำไม่ได้ก็จะเดินหน้าผลักดันต่อไป จะเป็นรายมาตราหรืออย่างไรก็จะหารือกันอีกครั้ง