ลูกสาวเข้าแจ้งความเอาผิดแพทย์ - พยาบาล หลังทำแม่เสียชีวิตระหว่างรับบริการดูดไขมัน ด้าน สบส. ลงพื้นที่พบคลินิกเปิดให้บริการไม่ตรงกับเวลาที่ได้รับอนุญาต

นางสาว อัยมิญห์ อิทธีรนันท์ อายุ 30 ปี เดินทางเข้าแจ้งความตำรวจ สน.หัวหมาก ให้ดำเนินคดี กับ แพทย์ พยาบาล และ ผู้เกี่ยวข้อง หลัง นางศรัณย์ภัทร์ กาญจนสุวรรณ์ อายุ 54 ปี แม่ (น้องสาวอดีตรองผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช) เข้าไปรับบริการดูดไขมัน ที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ในซอยรามคำแหง 24 เแต่เสียชีวิตระหว่างเข้ารับบริการ

ลูกสาว เล่าว่า แม่ตัดสินใจดูดไขมันกับคลินิกแห่งนี้ เพราะ แพทย์ของคลินิกได้การันตีถึงผลการรักษา จนแม่เชื่อใจ วันเกิดเหตุแม่แจ้งให้ตนเองมารับช่วงบ่าย 2 แต่พอ 13.06 น. คลินิกได้ติดต่อมาหาตนเอง แต่ติดต่อไม่ได้ จึงโทรไปหาน้องชายแทนและแจ้งว่า แม่มีอาการผิดปกติ น้องจึงบอกคลินิกให้นำแม่ไปส่งโรงพยาบาล

พอตนไปถึงที่คลินิก พบว่า ร่างกายของแม่ เย็นและตัวแข็งแล้ว จึงตั้งข้อสังเกตว่าทำไมคลินิกไม่นำแม่ส่งโรงพยาบาล ทั้งที่อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ถึง 2 แห่ง ตอนนี้ยังต้องรอผลการตรวจสอบจากนิติเวช ว่า แม่เสียชีวิต เพราะ รับยาเกินขนาดหรือไม่ พร้อมยืนยันว่า แม่ไม่เคยแพ้ยา ที่ผ่านมามีสุขภาพแข็งแรงดี  อีกทั้ง แม่เคยดูดไขมันมาแล้ว ซึ่งไม่เคยมีปัญหา หรือ อาการแทรกซ้อนมาก่อน

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อม เจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ระบุว่า คลินิกถูกมาตรฐานตามที่ขออนุญาต และ มีการขออนุญาตจัดทำ ห้องผ่าตัดขนาดเล็กด้วย ส่วนภายในห้องผ่าตัดที่เกิดเหตุ พบว่า ตำรวจได้นำเอาอุปกรณ์วัดสัญญาณชีพ ไปเป็นพยานหลักฐานทางคดีแล้ว

แต่สิ่งที่ผิดกฎหมาย คือ ทางคลินิกขอใบอนุญาต ดำเนินการรักษาช่วงเวลา 17.00-20.00 น. ซึ่งไม่ตรงกับเวลาที่ให้บริการผู้เสียชีวิต ที่มาช่วงเวลา 12.00-14.00 น. และต่อจากนี้จะเชิญหมอมาให้ข้อมูลกับทางแพทย์สภาว่าทำตามมาตรฐานหรือไม่ 

ส่วนที่ลูกของผู้เสียชีวิต ตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดทางคลินิกถึงไม่ส่งผู้ตายไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนนั้น ทางคลินิก ชี้แจงว่า อยู่ในขั้นตอนระหว่างการส่งต่อ ซึ่งอาการของผู้เสียชีวิตในขณะนั้นไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายเอง

สำหรับ การดูดไขมันมีความเสี่ยง เสี่ยงตั้งแต่การใช้ยา เพื่อทำให้คนไข้ ลดความเจ็บปวด เพราะ ยาบางชนิดอาจทำให้ความดันตก หรือ เกิดจากการใช้เครื่องมือสอดเข้าไป หากดูดไขมันออกในปริมานที่มากและรวดเร็ว อาจทำให้ร่างกายช็อกได้ แต่ทั้งนี้เบื้องต้นยังไม่สั่งปิดสถานประกอบการ เพราะยังไม่ใช่ข้อหาร้ายแรง

ลูกสาวเข้าแจ้งความเอาผิดแพทย์ - พยาบาล หลังทำแม่เสียชีวิตระหว่างรับบริการดูดไขมัน