ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยคดี"น้องชมพู่" ยังไม่ถึงบทอวสาน ต้องสอบเพิ่มเติมบางประเด็น และยังไม่ชัดว่าแจ้งข้อหาอะไรกับผู้ต้องหาบ้าง แต่ ผบ.ตร.เอง ก็พูดแบบเป็นนัยๆ ด้วย เหมือนว่าเรื่องนี้มีคนพาน้องชมพู่ขึ้นไปบนเขาแน่นอน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ก็ได้พูดถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ภายหลังมีกระแสข่าวว่า ใกล้จะได้บทสรุปและถึงอวสาน


โดย พลตำรวจเอกสุวัฒน์ ยืนยันว่า ขณะนี้ ยังไม่มีกำหนดการ ว่าจะทำอะไรวันไหน แต่ก็ไม่ได้แปลว่า ไม่มีอะไร แต่หากถึงวันที่ทุกคนรอคอย การชี้แจงเรื่องของตำรวจก็จะทำเท่าที่ทำได้ " อาจจะไม่ถูกใจพระเดชพระคุณท่าน" แต่อะไรเล่าได้ก็เล่า แต่หากทำแล้วเสียหายต่อรูปคดี ก็ไม่สามรถที่จะเล่าให้ฟังได้

ผบ.ตร. บอกอีกว่า การจะจับกุมใครสักคน หลักการคือต้องแจ้งข้อเท็จจริงว่าเขาทำผิดอย่างไร สิ่งที่แจ้งต่อตัวผู้ต้องหาอาจจะพิจารณาออกสื่อได้ว่าเรากล่าวหาเขายังไง แต่เหตุผลที่มาสนับสนุนการกระทำของผู้ก่อเหตุอาจจะบอกไม่ได้ทั้งหมด

เมื่อถามว่าจะเข้าข่ายการฆ่าโดยเจตนาหรือไม่นั้น ผบ.ตร. บอกว่า การแจ้งข้อหา จะต้องมีการลงมติกันในรูปของคณะพนักงานสอบสวน ซึ่งตอนนี้มีหลายประเด็น ที่เห็นว่าควรจะต้องเพิ่มเติม และจะมาพูดคุยกันอีกที

พร้อมกันนี้ ผบ.ตร. ยังได้ถามกลับนักข่าวแบบเป็นนัยๆ ให้ชวนคิด ว่า "หากจะมีใครสักคนพาเด็ก ทั้งที่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่เอาขึ้นไปในจุดตรงนั้น และสามารถเล็งเห็นว่า เสียชีวิตแน่" ท่านคิดว่าจะโดนข้อหาอะไร" ซึ่งแต่ละคนมีความเห็นอย่างไรก็ได้ แต่ทางคณะพนักงานสอบสวนก็จะมีพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหาอะไร

โดยส่วนตัวยังไม่ขอยืนยันคำตอบ เพราะยังคงหารือกันอยู่ขอยังไม่พูดตอนนี้ขอให้มีคำตอบแบบทางการก่อน เพราะเกรงจะเสียหายต่อรูปคดี

หลังจากที่ ผบ.ตร.พูดออกมาแบบนี้ หลายคนก็ตั้งคำถามในใจทันทีว่า คนที่พาขึ้นไปบนเขาแน่นอน ส่วนจะเป็นใคร ใครที่พาน้องขึ้นไปแล้วทำให้น้องเสียชีวิต และจะเจตนาหรือไม่เจตนาทำให้เสียชีวิตนั้นตอนนี้ก็ยังไม่มีคำตอบจากทางตำรวจ

ผู้สื่อข่าวถาม ยังได้ถาม ผบ.ตร. ถึงกรณีที่ ลุงพล และทนายความ ไปร้องศาลให้คุ้มครองนั้นถือว่าเป็นการร้อนตัวหรือไม่นั้น ผบ.ตร.บอกว่า ปัจจุปันการสู้คดีจะสู้กัน 2 ทาง คือสู้ในศาล กับสู้ในโชเชียล ก็ต้องว่ากันไป แต่ตำรวจ ให้น้ำหนักกับการต่อสู้คดีในชั้นศาลมากกว่า

ส่วนเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่มีนักกฏหมายออกไปรายการทีวีและพูดว่าไม่สนใจ "ไมโทครอนเดีย ดีเอ็นเอ" โดยให้เหตุผลว่า อาจจะเป็นของน้องชมพู่ก็ได้ และอาจจะไม่ใช่หลักฐานสำคัญในคดี นั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ก็ต้องฟังรายละเอียดจากเขา ตนไม่ได้ฟัง แต่ได้อธิบายว่า ไมโทคอนเดรียเป็นดีเอ็นเอ ที่สกัดโดยวิธีที่แตกต่าง จากนิวเคลียส ดีเอ็นเอ

แต่จะไประบุว่าเป็นของใครคงบอกไม่ได้แน่ชัด แต่หลักฐานทุกชิ้นก็สำคัญหมด เพราะต้องนำหลายๆ อย่างมาประกอบกัน ตำรวจไม่ได้ใช้หลักฐานเพียงชิ้นเดียว

 

ผบ.ตร.ยังไม่กำหนดวันอวสานคดี "น้องชมพู่"