นายกฯ ขออย่านำเรื่องวัคชีนโควิด -19 มาเป็นประเด็นการเมือง แจงเหตุใช้บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ มาผลิตวัคชีน เพราะได้มาตรฐานดีที่สุด และถูกเลือกจาก บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ไม่ควรโยงสถาบัน ยันใช้มาตรา 112 กับ "ธนาธร" ไม่ได้เลือกปฏิบัติ หรือนำมาปิดปากไม่ให้วิจารณ์

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมกลุ่มราษฏร 63 นัดชุมนุมที่อาคารศรีจุลทรัพย์ ที่ตั้งของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ เพื่อทวงถามความโปร่งใสในการใช้งบประมาณว่า ช่วงเวลานี้ไม่เหมาะสมที่จะมีการชุมนุม ซึ่งการใช้วัคซีน รัฐบาลก็ได้ระมัดระวังผลข้างเคียง ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนมาที่สุด และขณะนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามกรอบเวลาหรือไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้

พร้อมย้ำว่า ไม่อยากให้วัคซีนโควิด-19 ถูกโยงเป็นเรื่องการเมือง เพราะเป็นเรื่องอันตราย ซึ่งรัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ ตามมาตรฐาน ตามหลักการของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะต้องมีความชัดเจน

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้คิดค้นและเจ้าของลิขสิทธิ์วัคซีนโควิด-19 เป็นเพียง 1 ในห่วงโซ่ของการผลิต ของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า และเหตุผลที่จะต้องมีโรงงานในการผลิตวัคซีน เพราะเนื่องจากต้องรับจ้างผลิต เป็นเรื่องของการดำเนินการทางธุรกิจ ซึ่งบริษัทดังกล่าว ก็ได้สำรวจโรงงานที่มีอยู่ทั่วประเทศแล้ว และเลือกบริษัท สยามไบโอไซต์ เป็นผู้ผลิต เพราะมีมาตรฐานที่ดีที่สุด

ดังนั้น ขออย่าดึงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ว่า บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จะมีความเชื่อมโยงกับสถาบัน แต่ในการผลิตวัคซีน ตามเงื่อนไขของบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า รัฐบาลได้ขอพระราชทานอนุญาตแล้ว และเป็นผู้ออกงบประมาณในการดำเนินการ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการจะชุมนุมด้วยว่า ขออย่าให้ไปกระทบกับคนอื่น หรืออย่าทำอะไรที่ผิดกฏหมาย นอกเหนือจากนี้รัฐบาลรับได้

ส่วนที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวไปดำเนินคดี มาตรา 112 กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่ออกวิพากษ์วิจารณ์วัคซีนโควิด-19 นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ที่ผ่านมา ได้ให้โอกาส เพราะไม่ต้องการใช้กฏหมายไปปิดปากคน หรือไปทำร้ายใคร

แต่อยากให้พิจารณาว่า การกระทำของนายธนาธร ทำซ้ำกี่ครั้งแล้ว และไม่เพียงแต่นายธนาธนเท่านั้น แต่รวมไปถึงคดีของกลุ่มนักศึกษา ที่กระทำผิดซ้ำ ซึ่งต่างกรรมต่างวาระ พร้อมระบุว่า ไม่อยากให้นำเรื่องนี้ไปเป็นเรื่องของการเมือง จะผิดหรือถูก ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า ไม่ได้เลือกปฏิบัติในการดำเนินคดีมาตรา 112 แต่การกระทำของนายธนาธน เข้าข่ายตามมาตรา 112 และ 116 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด ดังนั้น อย่าไปให้ความสำคัญกับคนเหล่านี้มากหนัก และหากคิดว่า ไม่ได้กระทำความผิด ก็ให้ไปต่อสู่ตามขั้นตอนของกฏหมาย

นายกรัฐมนตรี ยังขอให้นักการเมืองระมัดระวังการแสดงความเห็นเรื่องวัคซีน และอย่านำเรื่องวัคซีนมาเกี่ยวพันกับเรื่องการเมือง เพราะขณะนี้ การเจราจาตกลงกับบริษัทที่ผลิตวัคชีน ก็เดินหน้าไปได้ด้วยดี หากยังคงมีการโจมตีกันไปมาอยู่ ก็จะเกิดความหวาดระแวง

เพราะหากเกิดปัญหาแล้ว จะส่งผลกระทบต่อคนทั้งประเทศ ในการได้รับการฉีดวัคชีนตามไทม์ไลน์ที่บริษัทกำหนด และหากเกิดความเสียหายทุกคนที่ออกมาวิพากวิจารณ์ก็ต้องออกมารับผิดชอบด้วย

ส่วนการที่นายธนาธร เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเอกสารที่บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ทำกับบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า และพร้อมจะขอโทษหากเข้าใจผิด นายกรัฐมนตรี กล่าวสั้นๆว่า ตนพร้อมจะชี้แจงเรื่องดังกล่าวในสภา และมั่นใจว่า ไม่ได้ทำผิดใดๆ