กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสอบสวนโรคกรณีดีเจมะตูมและผู้ประกาศช่อง NBT พบเชื่อมโยงกันจากงานเลี้ยงปาร์ตี้ใน 3 เหตุการณ์ มีผู้ติดเชื้อรวม 19 ราย ย้ำร่วมงานเลี้ยง ไม่ใส่หน้ากาก เป็นจุดเสี่ยงแพร่เชื้อในหลายเหตุการณ์ ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ ไม่ป้องกันตัวในบ้านและที่ทำงาน ทำผู้สูงอายุและคนมีโรคประจำตัวเสี่ยงติดเชื้ออาการรุนแรงและเสียชีวิต รวมทั้งแพร่เชื้อในที่ทำงาน

นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนโรค ดีเจมะตูม พบจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์เริ่มจากมีชายติดเชื้อไม่มีอาการหลังจากไปเที่ยวสถานบันเทิง จ.เชียงใหม่ และไปร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดของดีเจมะตูม ซึ่งมีผู้ร่วมงานจำนวนมาก ส่วนผู้ประกาศข่าวช่อง NBT ที่ติดเชื้อมาจากการเข้าร่วมงานปาร์ตี้อีกงานที่มีเพื่อนบางคนที่ติดเชื้อเชื่อมโยงกัน ทำให้เกิดการติดเชื้อใน 3 กลุ่มที่เกี่ยวข้องกันผ่านงานเลี้ยงปาร์ตี้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อในขณะนี้แล้ว 19 ราย ดังนั้น จุดเสี่ยงที่ขอย้ำ คือ สถานที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก คนร่วมกิจกรรมไม่สวมหน้ากาก โดยเฉพาะช่วงรับประทานอาหาร งานเลี้ยงวันเกิดที่มีการเป่าเค้กวันเกิด สังสรรค์ ร้องเพลง ตะโกนหรือพูดเสียงดัง ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ ในขณะที่คนติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ จึงคิดว่าไม่เป็นอะไร ทำให้เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดการติดเชื้อในหลายครั้ง ขอให้ผู้ไปงานปาร์ตี้วันเกิดที่พบผู้ป่วยโควิด 19 ครั้งนี้ เฝ้าระวังสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน นับจากวันที่ไปปาร์ตี้

“เมื่อมีผู้ติดเชื้อ 1 คน คนในครอบครัวจะมีความเสี่ยงมากที่สุด เนื่องจากใช้เวลาด้วยกันในบ้าน และไม่มีการป้องกันที่เคร่งครัด ส่วนอีกกลุ่มคือ สถานที่ทำงานที่มีการพบปะ ประชุม รับประทานอาหารร่วมกัน หรือการเลี้ยงสังสรรค์กัน ถือเป็นจุดเสี่ยง วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เช็กชื่อด้วยไทยชนะ และดาวน์โหลดหมอชนะ ซึ่งจะช่วยแจ้งเตือนเมื่อมีความเสี่ยงหรือมีโอกาสไปสัมผัสผู้ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัวได้ ช่วยให้ติดตามควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว โดยวันที่ 24 มกราคม มีผู้ลงทะเบียนใช้งานแล้ว 6.8 ล้านกว่าคน ยอดแจ้งเตือนสะสม 5,927 ราย ขอย้ำการป้องกันส่วนบุคคลมีความสำคัญช่วยควบคุมสถานการณ์ระลอกใหม่ได้ดีขึ้น” นพ.โอภาสกล่าว