พ่อน้องบ๊อบบี้เด็กชายวัย 7 ขวบ กังวลกลัวคดียืดเยื้อจับคนร้ายไม่ได้เหมือนคดีน้องชมพู่ เชื่อมั่นน้องชายเป็นผู้บริสุทธิ์

นายทรงวุฒิ แปงเรือน อายุ 30 ปี พ่อน้องบ๊อบบี้ เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 8 ยอมรับว่ากังวลใจว่า คดีลูกชายจะซ้ำรอยคดีน้องชมพู่ ที่ผ่านไปเเล้วหลายเดือนก็ยังไม่ได้ตัวคนร้าย ยืนยันว่า ตัวเองไม่เคยบาดหมางกับใคร จึงนึกไม่ออกว่าใครจะมาทำร้ายเพื่อเเก้เเค้น

และส่วนตัวยังเชื่อในความบริสุทธิ์ของนายหลี น้องชาย และขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจตามจับคนร้าย ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวตนด้วย

ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เอง ยอมรับว่า ทุกวันนี้อยู่กันอย่างหวาดผวา หลายคนเริ่มกังวลว่า คดีจะยาวนานเหมือนคดีน้องชมพู่หรือไม่ ทุกวันนี้ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้อีก อยู่กันเเบบไม่กล้าไว้ใจใครเเม้เเต่คนรู้จักกันเอง จะไปทำงานก็กังวลเป็นห่วงลูก ขอให้ตำรวจเร่งปิดคดีเร็วๆ

คุณกานต์สินี สิทธิโชติพงศ์ ผู้สื่อข่าวช่อง 8 อยู่ในพื้นที่เกาะติดคดี วันนี้พาเด็กๆ ในหมู่บ้านไปดูบ่อน้ำที่มักจะไปเล่นตกปลากันเป็นประจำ ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่พยาน บอกกับตำรวจว่า เป็นจุดสุดท้ายที่เห็นน้องบ๊อบบี้เดินผ่าน ซึ่งเส้นทางดังกล่าวห่างจากบ้านของน้องบ๊อบบี้ เกือบ 700 เมตร และต้องเดินผ่านทุ่งนาไปอีก 300 เมตร

เมื่อเดินสำรวจพบว่า มีศาลาหลังหนึ่งอยู่บริเวณนี้ด้วย ซึ่งตรงกับคำให้การของเด็กที่มานั่งรอเพื่อนไปตกปลา บอกว่า เห็นน้องบ๊อบบี้เดินผ่านมาจุดนี้จริง เเต่ไม่ทันได้คุยอะไรกันน้องบ๊อบบี้ก็เดินกลับไป

เด็กๆ บอกว่า เวลาที่มาตกปลาเเต่ละครั้ง ส่วนใหญ่จะชวนกันมาตั้งเเต่ 3-10 คน ไม่ค่อยมีใครมาคนเดียว เพราะพื้นที่ค่อนข้างไกลเเละเปลี่ยว เมื่อมาถึงก็จะใช้คันเบ็ดที่ทำกันขึ้นมาเองเเบบง่ายๆ มาตกปลา และในวันเกิดเหตุนั้น น้องบ๊อบบี้ ไม่ได้มาตกปลาที่นี่ด้วย

ด้านคดี มีรายงานว่า ตำรวจได้ผลตรวจพิสูจน์ศพของน้องบ๊อบบี้แล้ว ลำตัวซ้ายเขียวช้ำทั้งแถบ แก้มซ้ายมีลักษณะคล้ายกับรอยนิ้ว ซี่โครงฝั่งซ้ายและบริเวณแผ่นหลัง มีรอยโดนของแข็งกระแทกอย่างแรง และเป็นรอยที่ตรงกับท่อนไม้ที่ตกอยู่ในจุดที่พบศพ จึงยืนยันได้แล้วว่าเด็กถูกทำให้ตายแน่นอน แต่ต้องไปหาว่าใครเป็นคนกระทำ

ซึ่งขณะนี้ ตำรวจกระจายกำลังกันนำตัวผู้ต้องสงสัยและบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกรอบแล้ว แต่ความยากของคดีนี้นอกจากจะไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ตอนเกิดเหตุแล้ว คนในพื้นที่หลายคนต่างไม่กล้าออกมาให้ข้อมูล เพราะกลัวว่าจะไปเกี่ยวข้องกับคดี