ตำรวจเรียก "อา" น้องบ๊อบบี้ และผู้ที่พบศพคนแรกให้ปากคำเพิ่มเติม ขณะที่ "อา" ยันไม่ได้ฆ่าหลาน หลังถูกคนในหมู่บ้านสงสัย

ตำรวจภูธรเวียงเชียงรุ้ง เชิญตัว นายหลี อายุ 16 ปี อาน้องบ็อบบี้ และ ชายอายุ 62 ปี อดีตตำรวจยศร้องตำรวจเอก สภ.เวียงเชียงรุ้ง คนดักหนูที่เป็นคนพบศพน้องบ๊อบบี้ เป็นคนแรก เข้าให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติมในฐานะพยาน โดยใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 2 ชั่วโมง

หลังให้ปากคำ อาน้องบ๊อบบี้ ยืนยันกับทีมข่าวว่า ไม่มีทางที่จะฆ่าหรือทำร้ายหลาน เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก วันเกิดเหตุไปซ่อมโทรศัพท์มือถือ มีพยานเป็นเจ้าของร้านยืนยันได้ และมีวงจรปิดบันทึกภาพว่า ไปซ่อมมือถือจริงๆ อยากบอกคนในหมู่บ้านหรือคนที่สงสัยว่า ตัวเองรู้ดีว่าทำอะไรอยู่ อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ อยากรู้ว่า ทำไมฆ่าหลานได้โหดแบบนี้

ขณะที่อดีตตำรวจที่พบศพน้องเป็นคนแรก เล่าว่า วันที่ 17 มกราคมไปดักหนูนากับเพื่อน ขณะนำกรงดักหนูไปวางตามจุดต่างๆ ก็เดินไปพบศพของน้องบ๊อบบี้ โดยบังเอิญ ตกใจจึงรีบถอยออกมา แม้ตัวเองจะเคยเป็นตำรวจแต่ก็เกษียณมา 2 ปีแล้ว จากนั้นรีบโทรแจ้งตำรวจ

ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวลือว่า เคยไปเล่าให้เพื่อนฟังว่า เห็นชายปริศนาวิ่งออกมาจากจุดที่พบศพน้องบ๊อบบี้นั้น ยืนยันไม่เคยพูด และไม่เคยเห็นใครในที่เกิดเหตุ

อีกหนึ่งคนที่ตอนนี้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคือ นายณัฐพล นัยติ๊บ หรือพ่อหลวงเกต เจ้าของที่ดินที่พบศพ ที่คาดว่า อาจจะโมโหที่เด็กที่เข้ามาจับปลาที่บ่อน้ำในที่นาตัวเองจนพลั้งมือทำร้าย ซึ่งเมื่อวานเจ้าตัว ก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่ได้ไปจุดดังกล่าววมเดือนเเล้ว และวันเกิดเหตุก็ไปปรับหน้าดินให้ญาติ

วันนี้ทีมข่าวไปตามหาแม่ทา วงศ์ใหญ่ เจ้าของที่ดิน ที่พ่อหลวงเกต อ้างว่าไปปรับหน้าดินให้ แม่ทา ยืนยันว่า วันที่เจอศพน้องบ๊อบบี้ พ่อหลวงเกต อยู่ที่นี่ตั้งแต่เช้าจนค่ำ เท่าที่รู้จักกันมาเป็นไปไม่ได้ ที่พ่อหลวงเกตจะไปฆ่าเด็ก

ผู้สื่อยังลงพื้นที่ไปพูดคุยนายไทธชา เเสงเสรีธรรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 เพิ่มเติม หลังผู้ใหญ่บ้านได้ข้อมูลมาจากเด็กๆ ในหมู่บ้านว่า เจอกับน้องบ็อบบี้ก่อนหายตัวไป โดยเด็ก 1 ใน 3 คน ยืนยันว่า เห็นน้องบ๊อบบี้เดินมาที่บ่อน้ำคนเดียว ก่อนเดินกลับออกไปโดยไม่ได้พูดคุยกัน จากนั้นไม่นาน มีชายคนหนึ่งสวมหน้ากากอนามัย เดินมาไล่พวกตนให้กลับบ้านจึงวิ่งหนีเเยกย้ายกันไป

ทำให้ตนนึกถึงผู้ต้องสงสัยอีกคน คือ ชายที่เคยต้องโทษคดีทำร้ายร่างกายเด็กในต่างพื้นที่ เเละหลังพ้นโทษก็มาอาศัยอยู่ในพื้นที่ด้วย ซึ่งล่าสุดทราบว่าตำรวจคุมตัวไปสอบปากคำแล้ว

ด้านตำรวจ บอกว่าความยากอยู่ที่ช่วงเวลาเกิดเหตุยังไม่แน่ชัด ไม่มีใครเห็น หลักฐานหลักที่จะมัดตัวคนร้ายได้เเม่นยำ มีเพียงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เท่านั้น ที่เก็บได้บริเวณจุดเกิดเหตุเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น จอบ 1 ด้าม ท่อนไม้คล้ายฟืน 2 ท่อน รองเท้านักเรียนสีน้ำตาล รอยรองเท้านักเรียนบริเวณเตาอังโล่ และดีเอ็นเอ เพื่อระบุตัวคนร้าย

ทั้งนี้ หมอดูที่ชาวบ้านเคารพ (ไม่ใช่ร่างทรง) ให้ข้อมูลตอนที่ยังไม่พบศพน้องบ็อบบี้ว่า เหมือนมีอะไรบดบังตัวอยู่ และระบุว่า จากการคำนวณตัวเลขแล้ว น้องบ๊อบบี้ อยู่ในที่ต่ำแต่ไม่ใช่อยู่ในน้ำและมีอะไรปิดบังตาอยู่ ให้เดินหาทางทิศตะวันออก รับรองว่า เจอน้องบ๊อบบี้แน่นอน แต่ระหว่างชาวบ้านยังเดินไปไม่ถึง ก็มีคนหาหนูไปพบศพน้องบ๊อบบี้ก่อน ซึ่งอยู่ทางทิศที่หมอดูบอกไว้ และพบว่า มีใบกล้วยปิดศพอยู่ตามข้อมูลที่หมอดูบอกเช่นกัน

เช่นเดียวกับแม่หมอ บอกไปในทิศทางเดียวกันว่า น้องอยู่ทางทิศตะวันออก และวันนั้นได้บนบานกับเจ้าที่เจ้าทางเปิดทางให้พบเจอน้องบ๊อบบี้ ซึ่งก็ทำให้ชาวบ้านเจอกับน้องบ็อบบี้จริงๆ

เชิญตัวอาหลี-คนพบศพสอบเชื่อมโยงคดีน้องบ๊อบบี้