ผู้ใหญ่บ้านตั้งข้อสงสัยเพิ่ม หลังน้องบ๊อบบี้ วัย 7 ขวบ เสียชีวิตอย่างปริศนา คาดเป็นฝีมือของชายที่เคยต้องโทษ คดีทำร้ายร่างกายเด็ก

นายไทธชา เเสงเสรีธรรม อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย บอกกับคุณกานต์สินี ผู้สื่อข่าวของเราว่า วันนี้ตนเเละพ่อ น้องบ๊อบบี้ได้ไปสอบถาม เด็ก 3 คน ที่ไปเล่นน้ำ เเละตกปลา ที่สระน้ำท้ายบ้าน เมื่อวันที่ 16 มกราคม หรือช่วงวันเกิดเหตุ ที่ น้องบ๊อบบี้ วัย 7 ขวบ หายตัวไป ก่อนเสียชีวิตปริศนา

โดย 1 ใน 3 คน ยืนยันว่า ขณะที่เพื่อน 2 คนตกปลา เห็นน้องบ๊อบบี้เดินสวมเสื้อสีชมพู มาที่สนามคนเดียว และมาเจอพวกตน ก่อนเดินกลับออกไป โดยไม่ได้พูดคุยกัน

จากนั้นไม่นาน มีชายคนหนึ่งสวมหน้ากากอนามัย เดินมาไล่พวกตนให้กลับบ้าน จึงวิ่งหนีเเยกย้าย ไปคนละทิศละทาง จึงตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้หรือไม่ ที่ผู้ต้องสงสัย อาจจะเป็นคนไม่พอใจพฤติกรรมของเด็กๆ ที่ออกมาเที่ยวเล่น ทำให้นึกถึงชายที่เคยต้องโทษคดี ทำร้ายร่างกายเด็กในต่างพื้นที่ เเล หลังพ้นโทษก็มาอาศัยอยู่ในพื้นที่ด้วย ซึ่งคนนี้ตำรวจเคยนำตัวไปสอบปากคำเเล้ว

ส่วนความคืบหน้าคดี พนักงานสอบสวน สภ.เวียงเชียงรุ้ง เเละสืบภาค 5 สอบปากคำพยานไปแล้ว 4 ปาก คือ นายหวาน เเละ นายหลี ผู้เป็นอาของน้องบ๊อบบี้ นายทรงวุฒิ และนายอนัน คนพบศพ โดยทั้งหมดอยู่ในฐานะพยาน แต่ได้เก็บดีเอ็นเอไว้ เพื่อเปรียบเทียบแล้ว

ทั้งนี้ ก่อนพบศพน้องบ๊อบบี้ มีเรื่องแปลกเกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่พ่อน้องบ๊อบบี้ และคนในหมู่บ้านบอกว่า ก่อนน้องจะหายตัวก็ได้ยินเสียงหมาเห่าหอนทั้งคืนอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงมาพบศพ

โดยมีหมอดูที่ชาวบ้านเคารพ ให้ข้อมูลว่า น้องบ๊อบบี้ อยู่กับที่ และเหมือนมีอะไรบดบังตัวอยู่ ให้เดินตามหาทางทิศตะวันออก แต่ยังเดินหาไม่ทันเจอ ก็มีคนไปพบศพน้องบ๊อบบี้ ซึ่งอยู่ทางทิศที่หมอดูบอกไว้ และพบว่า มีใบกล้วยปิดศพอยู่ตามข้อมูลที่หมอดูบอกเช่นกัน

ขณะที่ในหมู่บ้านมีกระแสข่าวลือว่า ก่อนพบศพ มีพยานเห็นว่า มีบุคคลหนึ่งวิ่งออกมาจากบริเวณที่พบศพน้องบ๊อบบี้ และพยานคนนี้ได้เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง ก่อนเพื่อนจะไปเล่าให้อีกบุคคลฟังเช่นกัน แต่เมื่อมีการสอบปากคำพยานแวดล้อม กลับไม่มีใครให้ข้อมูลในเรื่องนี้กับตำรวจ