สถานการณ์แล้งที่จังหวัดกาฬสินธุ์เริ่มรุนแรง ชาวบ้านระบุหนักสุดในรอบ 20 ปี จึงพากันออกงมหาหอยทราย เพื่อนำไปรับประทานและจัดจำหน่าย สามารถสร้างรายได้วันละ 1,000-2,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงนานกว่า 2 เดือน พบว่า ภัยแล้งเริ่มส่อเค้ารุนแรง โดยเฉพาะปริมาณน้ำในลำน้ำธรรมชาติที่เชื่อมต่อกับลำปาว ได้ลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว จนเกิดการตื้นเขิน สันดอนโผล่ขึ้นเป็นแห่งๆ สามารถเดินข้ามฝั่งได้

โดยเฉพาะในเขต ต.นาเชือก ต.บัวบาน อ.ยางตลาด และ ต.ลำคลอง ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ โดยชาวบ้านในพื้นที่ระบุว่า เป็นความแห้งแล้งสุดในรอบ 20 ปีเลยทีเดียว

ทั้งนี้ ชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ติดกับแม่น้ำปาวหรือลำพาน กล่าวว่า ในฤดูฝนแม่น้ำสายดังกล่าว จะมีปริมาณน้ำที่สูงมาก บางช่วงเกือบติดกับท้องสะพานข้ามแม่น้ำ และบางช่วงมีความกว้าง 10-150 เมตร แต่ปัจจุบันที่เข้าสู่ฤดูแล้ง กลับลดลงและตื้นเขินเป็นอย่างมาก บางช่วงลึกเพียงหลังเท้า ความกว้างของร่องน้ำเพียง 1 เมตร สามารถเดินข้ามได้ง่าย

ชาวบ้านยังระบุอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่ปริมาณน้ำในลำปาวหรือลำพานลดลงดังกล่าว เกิดผลดีให้ชาวบ้านที่ว่างเว้นจากการทำนา ได้พากันมาหาปู ปลา และงมหอยทราย เพื่อไปประกอบอาหารทานในครัวเรือน หรือหากได้จำนวนมาก ก็จะแบ่งขายในชุมชน

โดยเฉพาะช่วงนี้ ที่หาได้ง่ายสุดและมีชุกชุม คือ หอยทราย ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ ซึ่งชาวบ้านจะมืองมหา และคัดแยกเอาตัวขนาดใหญ่ นำไปปรุงอาหารได้หลายเมนู เช่น ต้ม แกง ผัด แปรรูป หรือหากจะนำไปขาย ตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 20 บาท บางคนจำหน่ายได้เงินวันละ 1,000-2,000 บาท