กรมอนามัย แนะ ควรให้เด็กสวมหน้ากากให้เหมาะสมกับวัย ลดความเสี่ยงจากไวรัสโควิด-19

(9 ม.ค. 2564) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้พบมีการแพร่กระจายเชื้อในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งกลุ่มเปราะบางเป็นอีกกลุ่มที่ต้องดูแลใส่ใจเป็นพิเศษนอกจากผู้สูงอายุคือกลุ่มเด็กทารกและเด็กเล็ก ที่พ่อแม่ต้องคอยเฝ้าระวังและปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด

โดยเฉพาะการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยให้กับเด็ก แต่เนื่องด้วยสรีระและกลไกการหายใจที่ต่างจากผู้ใหญ่ ผู้ปกครองจึงควรเลือกสวมหน้ากากให้เหมาะสมกับเด็กและช่วงอายุของเด็กด้วยเช่นกัน ซึ่งการเลือกสวมหน้ากากป้องกันให้กับเด็กที่เหมาะสมตามช่วงอายุเมื่อจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ขอให้พ่อแม่ปฏิบัติดังนี้

1) เด็กทารกแรกเกิด - 1 ปี พ่อแม่ไม่ควรสวมหน้ากากให้ เพราะเด็กเล็กระบบการหายใจยังไม่แข็งแรงพอ เสี่ยงภาวะคาร์บอนไดออกไซด์คั่งได้ เนื่องจากทารกแรกเกิดหายใจทางจมูกเป็นหลัก ยังไม่มีความสามารถในการหายใจชดเชยด้วยการอ้าปากหายใจได้ เมื่อมีการขาดอากาศหรือออกซิเจนจะมีโอกาสเกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เกิดอันตรายต่อระบบประสาทของทารกได้ และในกรณีการใช้วัสดุพลาสติก บังหน้าทารก ความคมของพลาสติก อาจทำให้บาดใบหน้าและดวงตาของทารกได้

2) เด็กอายุ 1-2 ปี เด็กบางคนสามารถถอดหน้ากากเองได้เมื่อรู้สึกอึดอัด หากจำเป็นต้องใส่หน้ากาก ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ใส่เพียงระยะเวลาสั้นที่สุด โดยขณะใส่ควรมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยเพื่อคอยสังเกตหากเด็กมีการหายใจลำบาก และต้องถอดออกขณะนอนหลับด้วย

3) เด็กอายุมากกว่า 2 ปี สวมใส่หน้ากากได้ เพราะสามารถถอดหน้ากากออกได้เมื่อรู้สึกอึดอัด ยกเว้นเด็กที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเด็กที่มีความบกพร่องทางสมอง พ่อแม่ควรให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่หากเด็กไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย ผู้ปกครองควรใช้วิธีการจูงใจโดยเลือกขนาดลวดลายให้เหมาะกับเด็ก ชี้ชวนให้เด็กสังเกตบุคคลหรือเด็กวัยเดียวกันที่สวมหน้ากาก หรือมีการให้รางวัลชมเชยด้วยคำพูด ไม่ควรดุด่าและให้ลองสวมใหม่อีกครั้ง

นอกจากนี้ พ่อแม่ควรเน้นการล้างมือบ่อย ๆ ให้กับลูกเพราะเด็กมักจะหยิบเล่นของอยู่ตลอดเวลา อาจทำให้มือสัมผัสกับเชื้อโรคได้ และหลังจากการเล่นขอให้เน้นทำความสะอาดบริเวณที่เด็กเล็กเล่น รวมถึงอุปกรณ์ของเล่นด้วยเจลแอลกอฮอล์ด้วย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว