"บิ๊กป๋อม" อดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ ปธ.พัฒนาฟุตซอลฯ แต่งตั้ง "บิ๊กโก้" พ.อ.ปรีฎก ทองวันดี นั่งเก้าอี้ ผช.ผจก.ทีมชาติไทย เพื่อเข้ามาอุดรอยรั่วและเสริมทีมให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการหางบสนับสนุนและเงินอัดฉีดให้นักเตะเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ขณะที่ พ.อ.ปรีฎก หวังนักเตะไทยสร้างผลงานผงาดในเวทีโลก ที่ลิทัวเนีย พร้อมทุ่มเทให้กับการทำงานเต็มที่

นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานพัฒนาฟุตซอลและฟุตบอลชายหาด เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของนักเตะฟุตซอลทีมชาติไทย ที่คว้าสิทธิ์ไปร่วมการแข่งขันศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก รอบสุดท้ายมาได้ถึง 5 สมัยติดต่อกัน พร้อมด้วยการสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ คือ ผ่านเข้าไปสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ก่อนที่จะพ่ายแพ้ให้กับทีม อาร์เซอร์ไบจาน ในช่วงต่อเวลาพิเศษไปอย่างน่าเสียดาย 8-13 ในแมทช์ "ฟีฟ่าฟุตซอลเวิลด์คัพ" ปี 2016 ที่โคลัมเบีย แน่นอนว่า จุดบกพร่องต่างๆที่เกิดขึ้นทุกคนจะต้องนำมาเป็นบทเรียนและแก้ไขพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น โดยเฉพาะรูปแบบและการพัฒนาทีมฟุตซอลไทยนับจากนี้ไปอย่างมีระบบและแบบแผนในเวทีระดับโลก เพื่อให้เหมือนกับประเทศชั้นนำอย่าง บราซิล, อาร์เจนติน่า และ สเปน ซึ่งเขามีงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐแตกต่างกับบ้านเรามาก

ล่าสุดหลังจากตัวเองได้ปรึกษาหารือร่วมกับคณะกรรมการบริหารฟุตซอลทีมชาติไทย และได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ นายสุทิน บัวตูม ผู้จัดการทีมฟุตซอลทีมชาติไทยมีความเห็นตรงกันว่า เราจะต้องมีตำแหน่ง "ผู้ช่วยผู้จัดการทีม" เข้ามาอีกหนึ่งตำแหน่ง เพื่อคอยช่วยเหลือและบริหารจัดการทีมในวงนอกให้มีประสิทธิ์ภาพมากยิ่งขึ้่น นอกเหนือจากรายละเอียดภายในทีมที่มีอยู่แล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของการสรรหางบประมาณมาช่วยเหลือทีม, เงินอัดฉีดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเตะ และ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในการเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ นายสุทิน ได้เสนอชื่อ "บิ๊กโก้" พันเอกปรีฎก ทองวันดี เข้ามาทำหน้าที่ตรงจุดนี้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตัวเองก็เห็นดีเห็นงามด้วยเพราะถือว่า เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงและมีใจรักในกีฬานี้เหมือนกัน น่าจะใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่มาช่วยเหลือทีมฟุตซอลไทยให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามหนังสือแต่งตั้งอย่างเป็นทางการคาดว่า คงเป็นหลังช่วงปีใหม่

"บิ๊กป๋อม" นายอดิศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ทั้งนี้จากการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ "บิ๊กโก้" พันเอกปรีฎก แล้ว ค่อนข้างเป็นคนแอ็คทีฟและมีความรู้เรื่องกีฬามิใช่น้อย แถมยังเป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับโครงการซอฟแวร์ขนาดใหญ่ ดังนั้นในเรื่องของคอนเนคชันและวิสัยทัศน์ในการมองการณ์ไกลไม่ต้องพูดถึง เพราะฟุตซอลทีมชาติไทยเราไม่ต้องเริ่มต้นนับหนึ่ง แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือ รอยรั่วจุดเล็กๆน้อยๆที่ตัวเองต้องการหาคนมาอุด และในเมื่อเราได้ พันเอกปรีฎก เข้ามาทำงานตรงจุดนี้แล้ว เชื่อว่า ผลงานในเวทีระดับโลกเราน่าจะมีลุ้นมากยิ่งขึ้น สำหรับแผนงานฟุตซอลทีมชาติจากนี้ไปปี 2021 นั้น เรามีโปรแกรมเดินทางไปแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย ที่คูเวต เพื่อคัดเอา 5 ทีมสุดท้ายที่มีผลงานดีสุดไปลุยศึกฟุตซอลชิงแชมป์โลก ที่ลิทัวเนีย หลังเลื่อนออกมาจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ช่วงวันที่ 12 ก.ย. - 4 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ทุกอย่างคงต้องรอดูสถานการณ์โรคนี้ให้คลี่คลายไปทิศทางที่ดีเสียก่อนถึงจะเดินตามแผนได้

ขณะที่ "บิ๊กโก้" พันเอกปรีฎก ได้กล่าวว่า ส่วนตัวต้องขอขอบคุณ "บิ๊กป๋อม" นายอดิศักดิ์ และ นายสุทิน ที่ให้ความไว้วางใจมารับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติ เพราะตัวเองก็ชอบกีฬาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แถมยังได้ติดตามผลงานนักฟุตซอลไทยมาตลอด รู้สึกชื่นชมและชอบ นักเตะแต่ละคนเก่งมีความสามารถดี แม้จะตัวเล็กก็ตามแต่หัวใจเป็นนักสู้เกินร้อย แค่อาจมีจุดบกพร่องเล็กๆน้อยๆที่ตัวเองจะเข้ามาเสริมเติมเต็มให้มันสมบูรณ์แบบ วันนี้ได้มีโอกาสเข้ามาทำหน้าที่แล้ว จะใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ทุ่มเทเต็มที่ เพื่อต้องการเป็นส่วนหนึ่งพาทีมฟุตซอลไทยไปสู่แชมป์โลกให้ได้ แม้ว่า มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆก็ตามแต่เราก็ต้องมีเป้าหมาย นอกจากนี้ตัวเองก็ต้องการส่งเสริมฟุตซอลไปสู่ระดับรากหญ้าตามต่างจังหวัดให้มากขึ้น เพื่อค้นหานักเตะดาวรุ่งเข้ามาเสริมทีมชาติต่อไป