"คนละครึ่ง" เฟส 2 เริ่ม 1 มกราคม-31 มีนาคม 64 สนับสนุนค่าใช้จ่าย 3,500 ต่อสิทธิ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 2 เริ่ม 1 มกราคม-31 มีนาคม 2564 กลุ่มเป้าหมาย ยังคงเป็นประชาชนสัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ในวันลงทะเบียนมีบัตรประจำตัวประชาชน และไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนไม่เกิน 15 ล้านคน ประกอบด้วยผู้ได้รับสิทธิ์เดิมตามโครงการคนละครึ่งจำนวนไม่เกิน 10 ล้านคน และผู้ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 จำนวนไม่เกิน 5 ล้านคน รวมถึงผู้ถูกตัดสิทธิจากการไม่ใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่ง ร้านค้าที่ร่วมโครงการฯ จำหน่ายสินค้าประเภท อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป โดยไม่รวมถึงสินค้าสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และบริการต่างๆ ระยะเวลาดำเนินงาน 3 เดือน (1 มกราคม 2564 - 31 มีนาคม 2564) วงเงินรวม 22,500 ล้านบาท

หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ ดังนี้..

1) ผู้ได้รับสิทธิ์ตามโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 จำนวน 15 ล้านคน ประกอบด้วย (1) ผลทะเบียนเดิมจะได้สิทธิ์สนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป จากภาครัฐเพิ่มเติม 500 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 หรือไม่เกิน 3,500 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ

2) ผู้ลงทะเบียนใหม่ เริ่มลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป ในระหว่างเวลา 06.00 น. - 23.00 น ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com และยืนยันตัวตนผ่านระบบ g-Wallet แอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เพื่อรับสิทธิ์ตามโครงการ โดยสามารถใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 และจะได้สิทธิ์ไม่เกิน 3,500 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ

เงื่อนไขของโครงการฯ (1) ประชาชน ที่ได้รับสิทธิและไม่เริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับจากวันที่ได้รับ SMS จะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก โดยสิทธิที่ถูกตัดอาจนำไปเปิดให้ลงทะเบียนใหม่ และประชาชนที่ได้ใช้สิทธิตามโครงการคนละครึ่ง หรือโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 จะไม่สามารถใช้สิทธิ์สิทธิ์ ตามมาตรการช้อปดีมีคืนได้ และ (2) ผู้ประกอบการร้านอาหาร/เครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไป ต้องเป็นผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือเป็นร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547 หรือวิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจะต้องไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ โดยร้านค้าสามารถลงทะเบียนได้ตลอดระยะเวลาโครงการ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือลงทะเบียนผ่านทางสาขาของธนาคารกรุงไทยฯ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยประมาณการณ์ “โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2” คาดว่า จะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 45,000 ล้านบาท GDP ขยายตัวร้อยละ 0.14 แต่เมื่อรวมทั้งสองระยะเงินหมุนเวียนในระบบจะสูงถึง 105,000 ล้านบาท GDP ขยายตัวร้อยละ 0.32

“เป็นโครงการของรัฐบาล ที่ตั้งใจจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนทั้งในส่วนของค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป กระตุ้นการบริโภคและจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ ช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะหาบเร่ แผงลอย ให้มีรายได้จากการขายสินค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจถึงระดับฐานรากอย่างต่อเนื่อง” โฆษกกล่าวย้ำ