ศบศ. เตรียมเสนอ ครม. อนุมัติ "คนละครึ่ง" เฟส 2 เพิ่มวงเงินเป็น 3,500 บาท ขยายสิทธิ์เพิ่มอีก 5 ล้านคน

(2 ธ.ค. 2563) ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แถลงผลการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ครั้งที่ 6/2563

โดยนายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบศ. เห็นชอบมาตรการคนละครึ่ง ระยะที่สอง โดยจะมีรูปแบบเช่นเดียวกับระยะแรก คือ ภาครัฐจะร่วมจ่ายร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน โดยมาตรการระยะที่สอง จะมีรายละเอียดเพิ่มเติม คือ
1. เปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิเพิ่มเติมจำนวน 5 ล้านคน ระยะเวลาการใช้เงินตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2564 โดยจะได้รับวงเงินคนละ 3,500 บาท
2. เพิ่มวงเงินผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งระยะที่หนึ่ง อีกคนละ 500 บาท และจะขยายระยะเวลาการใช้สิทธิมาตรการระยะที่หนึ่งออกไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 ผู้ที่ถูกตัดสิทธิจากโครงการคนละครึ่ง ระยะที่หนึ่ง สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการระยะที่สองได้

อย่างไรก็ตาม ยังต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณาการใช้จ่ายเงินกู้ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีในการพิจารณาอนุมัติหลักการเห็นชอบต่อไป ขณะเดียวกันที่ประชุมยังได้เห็นชอบมาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยการเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน โดยมีระยะเวลาการดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม - เดือนมีนาคม 2564

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังเผยว่า ศบศ. เห็นชอบปรับปรุงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ดังนี้
(1) ปรับปรุงขอบเขตการใช้สิทธิจำนวนการจองห้องพักจากเดิมประชาชนจองที่พักได้ไม่เกิน 10 คืน (Room night) ต่อ 1 สิทธิ เพิ่มเป็น 15 คืน (Room night) ต่อ 1 สิทธิ
(2) เพิ่มจำนวนห้องพักในโครงการจากเดิม 5 ล้านคืน เป็น 6 ล้านคืน ทั้งนี้ จำนวนห้องที่เพิ่มมาจะสนับสนุนเฉพาะ E-voucher แต่ไม่อุดหนุนเรื่องค่าเครื่องบิน
(3) ขยายระยะเวลาการใช้สิทธิโครงการถึง 30 เมษายน 2564
(4) ขยายช่วงเวลาการจองที่พัก จากเวลา 06.00 – 21.00 น. เป็นเวลา 06.00 – 24.00 น.
(5) เพิ่มโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตฯ ธุรกิจโรงแรม แต่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการและพยุงการจ้างงาน
(6) อนุมัติให้ธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยวสามารถใช้ระบบคูปองออนไลน์ (E-Voucher) ได้ ประกอบด้วย ธุรกิจสปา นวดเพื่อสุขภาพหรือธุรกิจการขนส่งภาคท่องเที่ยว
(7) ปรับปรุงเกณฑ์สนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินจากเดิมรัฐสนับสนุนร้อยละ 40 แต่สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อ 1 สิทธิ เป็นสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อ 1 สิทธิ เฉพาะการเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เนื่องการภาคการท่องเที่ยวต้องพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และเชียงราย
และ (8) กำหนดหลักเกณฑ์การลาสำหรับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และพนักงานรัฐวิสาหกิจ สามารถลาพักร้อนในวันธรรมดาเพิ่มได้ 2 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลาเมื่อใช้สิทธิในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน