ผบ.ตร. แถลงครั้งแรกหลังสืบคดีน้องชมพู่ 144 วัน ยืนยัน "น้องชมพู่" เดินขึ้นภูเหล็กไฟเองไม่ได้ ระบุ มีคนพาไปและทำให้เสียชีวิต ตอบไม่ได้ "ลุงพล" คือผู้ต้องสงสัย

พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลความคืบหน้าคดี ที่น้องชมพู่ ยืนยันว่าเป็นการแถลงความคืบหน้าของคดี ไม่ใช่การแถลงปิดคดีอย่างที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้

จากพยานหลักฐานทั้งหมด สรุปยืนยันได้ว่า "น้องชมพู่" ไม่สามารถเดินขึ้นไปบนจุดพบศพ บนภูเหล็กไฟได้ด้วยตัวเอง โดยให้เหตุผลทั้งหมด 8 ข้อ ทั้งเรื่องเส้นทางที่สูงชัน มีหินก้อนใหญ่ที่ต้องปีนนป่าย ยากลำบากเกินความสามารถของน้องชมพู่ เพราะแม้แต่บันไดบ้าน น้องชมพู่ ยังปีนขึ้นไปเองไม่ได้ และน้องชมพู่ กลัวความสูง จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นภูเหล็กไฟเองได้ นอกจากนี้ ในวันเกิดเหตุตอนเช้า น้องชมพู่ กินอาหารเพียงไข่เจียว 3 คำ และน้ำส้ม 1 ขวด ซึ่งไม่สามารถให้พลังงานเพียงพอที่จะเดินขึ้นภูเหล็กไฟได้ สอดคล้องกับข้อมูลจากแพทย์ที่ลองเดินสำรวจจุดเกิดเหตุ และยืนยันว่าเด็ก 3 ขวบ ไม่สามารถเดินขึ้นไป

ส่วนสภาพศพมีสภาพเปลือยกาย ซึ่งพ่อแม่ยืนยันว่า น้องชมพู่ ถอดเสื้อเองไม่ได้ แถมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ยังพบเส้นผม 36 เส้น ตกอยู่ข้างศพ และมีการตัดเฉือนด้วยมีด ซึ่งเด็กไม่สามารถตัดเองได้

ดังนั้น คดีนี้สรุปได้ว่่า ต้องมีคนใกล้ชิดหรือบุคคลพยายามบังคับพาน้องชมพู่ขึ้นไปบนจุดเกิดเหตุ จนน้องถึงเเก่ความตาย จะด้วยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ซึ่งจะมีความผิด 3 ข้อหา คือ พรากเด็ก กักขังหน่วงเหนี่ยวจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต เเละซ่อนเร้นทำลายศพ

ผู้สื่อข่าว ถามถึงการที่ "ลุงพล" ตกเป็นผู้ต้องสงสัย กลายเป็นจำเลยสังคมนนั้น  เรื่องนี้ ผบ.ตร. ย้ำว่า ตำรวจไม่เคยบอกว่า ลุงพล เป็นผู้ต้องสงสัย คงต้องไปถามคนที่มอบตำแหน่งนั้นให้ และตำรวจยังไม่มีพยานหลักฐานพอที่จะออกหมายจับหรือดำเนินคดีกับใครได้ พร้อมฝากถึงคนร้ายที่รอฟังอยู่ ให้นอนเครียดต่อไป คดีมีอายุความ 20 ปี ยืนยันว่าทุกอย่างทำตามขั้นตอนกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม  

ตลอดเวลาการแถลง "ลุงพลพร้อมป้าแต๋น" นั่งฟังแถลงอยู่ด้านนอก โดยมีสีหน้าเคร่งเครียด และบางครั้งมีน้ำตาคลอ จากนั้นลุงพล เปิดใจทันที หลัง ผบ.ตร. แถลงเสร็จ ยืนยันว่า ช่วงเวลาที่น้องชมพู่หายตัวไป เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ประมาณ 09:11 น. ถึง 09:49 น. ช่วงเวลานั้น ตัวเองไม่ได้อยู่ในบ้านกกกอก

และประเด็น DNA จากเส้นผมที่พบในตัวน้องชมพู่ ซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของใคร ระบุได้เพียงว่าเป็นญาติทางฝั่งแม่ 2 ประเด็นนี้ ทำให้ "ลุงพล" มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ทั้งนี้ก็อยากให้ตำรวจแถลงให้ชัดว่า ตนคือผู้บริสุทธิ์ ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย

ขณะที่ ป้าแต๋น ระบุว่า ไม่ได้รู้สึกกังวล หลังจากตำรวจแถลงคดี เพราะมั่นใจว่าบริสุทธิ์ รวมถึงเรื่องผลดีเอ็นเอเส้นผมที่ระบุว่า ตรงกับเครือญาติ 5 คน ฝั่งแม่ เพราะมั่นใจว่า ตัวเองสัมผัสและยุ่งเกี่ยวกับน้องชมพู่น้อยที่สุด ครั้งสุดท้าย คือ 2 วันก่อนที่น้องจะหายตัว ที่ไปอาบน้ำให้น้อง ชมพู่ แต่วันที่ขึ้นเขาภูเหล็กไฟไปค้นหาไม่มีญาติพี่น้องทางฝั่งแม่ขึ้นไปด้วย

ส่วน หมอปลา วันนี้เดินทางมาพร้อมลุงพลป้าแตนเพื่อฟังแถลงความคืบหน้าคดี ระบุว่า วันนี้รู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถสอบถามรายละเอีย ดหรือสิ่งที่คลางแคลงใจกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ แต่ก็ถือว่ามีทิศทางที่ดี ที่ตำรวจยืนยันไม่พักคดี และจะทำการสืบสวนจนกว่าจะได้ตัวคนร้าย

ตำรวจแถลงความคืบหน้า คดีน้องชมพู่