นายกฯ ยอมรับ กังวลหลังเพื่อนบ้านพบโควิด-19 ระบาดรอบสอง สั่งปิดโรงเรียนตามแนวชายแดนเพื่อตรวจสอบเด็กนักเรียนที่เป็นไข้

(1 ก.ย. 2563) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่าวิตกกังวัลหลังประเทศเมียนมาเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่สอง ประกอบกับมีแรงงานบางส่วนหลบหนีเข้าประเทศไทย จึงสั่งปิดโรงเรียนตามแนวชายแดน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และกาญจนบุรี เพราะเป็นรัฐบาลต้องดูแลประชาชน 67 ล้านคน ซึ่งวันนี้เรามีมาตรการรับมือการแพร่ระบาดตามแนวชายแดนสกัดกั้นตั้งจุดตรวจเพิ่มเติมทั้งบนบกและทางน้ำ และการที่มีภาพว่ายน้ำเข้ามาขึ้นฝั่งมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจคัดกรองรักษาแสดงให้เห็นว่าเข้มงวด ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับรู้อยู่แล้วว่าจะต้องป้องกันการแพร่ระบาดรอบสองวันนี้เรามุ่งเน้นการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อให้ธุรกิจการบินมีรายรับ ไม่เช่นนั้นจะต้องลดลูกจ้างพนักงานและรัฐบาลจำเป็นต้องไปหางบประมาณจ้างงานเพิ่ม

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังชี้แจงด้วยว่าเป็นการปิดโรงเรียนเพื่อตรวจสอบเด็กนักเรียนที่มีไข้และชาวเมียนมา 2 ราย ที่มีไข้สูง และโรงพยาบาลได้รับตัวไปรักษาแล้ว ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นรัฐบาลได้แก้ไขแล้ว

ส่วนกระบวนการเข้าเมืองผิดกฏหมายก็ได้กำชับให้ติดตามจับกุมดำเนินคดีตามกฏหมายทุกราย ซึ่งการปิดโรงเรียนเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน เป็นพื้นที่ชายแดนใกล้กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งส่วนตัวได้ติดตามการแพร่ระบาดรอบสองในประเทศเพื่อนบ้านผ่าน ศบค. ทุกวัน และสั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้มงวดการเข้าออกประเทศไทยทุกช่องทาง

ดังนั้น คนไทยทุกคนต้องช่วยกันเข้มงวดให้มากขึ้นแม้ไทยไม่มีผู้ติดเชื้อมาสามเดือนแต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่ได้เตรียมความพร้อม สถานพยาบาล อุปกรณ์ทางการแพทย์ และความร่วมมือการผลิตวัคซีนกับหลายประเทศ ถ้าเกิดการระบาดรอบสองก็ต้องเข้มงวดไม่สามารถบังคับใครได้อยู่แล้ว ต้องร่วมมือร่วมใจกันเพื่อคนไทยทุกคน และยอมรับซึ่งกันและกัน