"วิชา" เตรียมส่งรายงานพิจารณาคดี "บอส อยู่วิทยา" ให้นายกฯสิ้นเดือนนี้ เผยพบ "กมธ.สนช." เป็นจุดเริ่มต้นทำอัยการกลับคำสั่งไม่ฟ้องคดี เร่งพิจารณาอำนาจหน้าที่ สนช.ก่อนหาตัวคนผิด

คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ใช้เวลาประชุมเพื่อพิจารณาพยานหลักฐานทั้งหมดที่ได้มีการสอบปากคำไปก่อนหน้านี้ นานกว่า 5 ชั่วโมง เพื่อหาข้อสรุปเบื้องต้นและพิจารณาว่ายังขาดพยานหลักฐานใดบ้าง

หลังการประชุม นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการฯ เปิดเผยผลการพิจารณาล่าสุด ว่า ใกล้ความจริงแล้ว และจะสามารถส่งรายงานการพิจารณาคดีนี้ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ ตามกรอบเวลา 30 วัน และจากการพิจารณาพยานหลักฐานทั้งหมดที่ได้มา ก็พบว่ายังขาดพยานอีกบางปาก ทั้งฝ่ายตำรวจและบุคคลทั่วไป ที่สำคัญคือ นายธนิต บัวเขียว ทนายที่ทำคดีนี้และเป็นผู้ไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมให้บอส กับคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้ยังติดต่อไม่ได้เลย ไม่ทราบว่าไปอยู่แห่งหนตำบลใด หากรู้เบาะแสช่วยประกาศตามหาให้มาพบหน่อย แต่เบื้องต้นก็พอมีข้อมูลจาก สนช. ว่า นายธนิต เข้าไปเกี่ยวข้องคดีนี้ตั้งแต่การนำเรื่องเข้าไปร้องต่อคณะกรรมาธิการ สนช.และคณะกรรมาธิการ ก็ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ แล้วก็นำมาซึ่งการสอบพยานเพิ่มเติมของอัยการ จนสุดท้ายนายเนตร นาคสุข อดีตอัยการสูงสุดก็สั่งไม่ฟ้องคดี ทำให้เราเห็นว่า ชั้นการพิจารณาของ สนช.เป็นกระบวนการเริ่มต้นของการกลับคำสั่งไม่ฟ้อง "บอส อยู่วิทยา"

ทั้งนี้ สนช.ส่งเอกสารทั้งหมดมาให้แล้ว ส่วนจะเอาผิดผู้ที่ดำเนินการได้หรือไม่ ได้สั่งการให้ฝ่ายเลขาฯตรวจสอบเรื่องของอำนาจหน้าที่ให้ชัดเจน ว่า สนช.มีอำนาจในการสอบสวนเรื่องต่างๆหรือไม่ ซึ่งบางคนอาจจะทำนอกเหนือหน้าที่ ก็จำเป็นจะต้องดูพฤติกรรมรายบุคคลด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุชื่อเป็นรายบุคคลได้ ตอนนี้ขอพิจารณาให้แน่ชัดว่าเป็นกระบวนการที่ทำโดยชอบหรือไม่ ก่อนที่จะลงลึกเป็นรายบุคคล

เมื่อถามว่าเหตุใดคำร้องขอของกรรมาธิการ สนช. จึงมีอิทธิพลต่ออัยการและตำรวจจึง นายวิชา กล่าวว่า คงไม่ใช่อิทธิพล แต่น่าจะเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือขององค์กรที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ แต่เราก็เห็นตรงกันว่า การร้องขอความเป็นธรรมน่าจะเกิดจากผู้เสียหายหรือตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ร้องเองมากกว่า

นายวิชา ยังกล่าวด้วยว่า วันนี้ที่ใช้เวลานานเนื่องจากต้องพิจารณาถึงความชอบธรรมขององค์กร ของตัวบุคคลต่างๆ และในสัปดาห์หน้าจะมีการเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่เพื่อให้ช่วยกันพิจารณา ขณะนี้ก็มองภาพของตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องชัดขึ้น ตอนนี้ได้ให้การบ้านคณะกรรมการแต่ละคนไปช่วยกันคิด ต้องไปศึกษาให้ดีว่ามันเป็นความผิดขององค์กรหรือความผิดของใคร ก่อนที่สัปดาห์หน้าจะเริ่มยกร่างรายงานส่งนายกฯรัฐมนตรี

นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้เกี่ยวข้องกับการถอนหมายจับบอสจาก อินเตอร์โพลมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม รวมไปจะเชิญตำรวจที่ทำคดีการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง พยานปากเอกของคดีบอส อยู่วิทยา มาให้ถ้อยคำด้วย

ส่วนข้อเสนอกระบวนการปฎิรูปกระบวนการที่ต้องเสนอคณะทำงานของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเพื่อประกอบการยกร่าง พ.ร.บ. สอบสวนคดีอาญานั้น ขอขยายเวลาการทำงานออกไปอีก 2 สัปดาห์