ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชสั่งเร่งคดีครูลืม "น้องกองบิน" ในรถตู้รับส่งจนอาการวิกฤตไม่ตอบสนองการรักษา ต้องใช้เครื่องพยุงชีพ

เหตุการณ์ครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดศรีมาราม อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช ลืมน้องกองบิน วัย 2 ขวบ ไว้ในรถตู้นานเกือบ 7 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ส่งผลให้น้องกองบินอาการโคม่า ต้องรักษาตัวอยู่ที่หอภิบาลผู้ป่วยวิกฤต และวิกฤติเด็ก โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ยังไม่ได้เสียชีวิตตามกระแสข่าวที่ออกมา

เมื่อช่วงสาย พลตำรวจตรีสนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เข้าเยี่ยมอาการของน้องกองบิน โดยหัวหน้าทีมพยาบาล สรุปอาการล่าสุดว่า พบม่านตาขยายไม่ตอบสนองต่อแสง ตับไต ไม่ทำงาน แพทย์ต้องใช้เครื่องพยุงชีพตลอด 24 ชั่วโมง อยู่ในภาวะวิกฤติ

พลตำรวจตรีสนธิชัย ให้กำลังใจนางสาวสุวภัทร ไชยธรรม นายธวัชชัย ยอดมณี แม่และพ่อของน้องกองบิน พร้อมมอบเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่ง พร้อมให้คำปรึกษาและชี้แจงขั้นตอนของการดำเนินคดีในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้เรียกผู้ขับขี่รถ และครูที่ควบคุมดูแลนักเรียนในรถมาสอบปากคำ เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นเข้าข่าย “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายสาหัส”

ขณะที่การสอบสวน พบว่า ก่อนหน้านี้ทางรักษาการผู้อำนวยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดศรีมาราม ซึ่งเป็นผู้ขับรถตู้วันเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า รถตู้คันเกิดเหตุมีที่นั่ง 4 แถว น้องกองบินนั่งอยู่แถวที่ 2 ริมหน้าต่างฝั่งซ้ายมือ เมื่อขับรถตู้มาถึงโรงเรียนช่วงนั้นท้องฟ้าเริ่มมืดฝนจึงเร่งรีบ เมื่อเห็นเด็กๆ ทยอยลงจากรถก็เข้าใจว่าลงมาหมดแล้ว ไม่คาดคิดว่าน้องกองบินยังอยู่ในรถ

แต่แม่น้องกองบินให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ปกติน้องกองบินจะนั่งแถวหน้าของรถตู้ วันเกิดเหตุครูเวรบอกว่าให้ไปนั่งแถวหลัง ขณะนั้นน้องกองบินก็ยังทำท่าเหมือนไม่คุ้นเคยที่ต้องไปนั่งในที่นั่งที่ไม่เคยนั่ง

ทีมข่าวโทรศัพท์พูดคุยกับนายกเทศมนตรีตำบลกะทูน ซึ่งเป็นผู้ควบคุมดูแลศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดศรีมาราม ระบุว่า กรณีนี้ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนเรื่องการเยียวยา ประสานกับครูเวรและรักษาการผู้อำนวยศูนย์ฯ คนขับรถตู้ มอบเงินส่วนตัวช่วยเหลือ 1 หมื่นบาท และเตรียมจะมอบอีก 4 หมื่นบาท แต่ทางครอบครัวน้องกองบินยังไม่ขอรับเงินก้อนหลังนี้

พ่อให้ถอดเครื่องช่วยหายใจยื้อชีวิต "น้องกองบิน" แล้ว