นายกฯ แจงตั้ง "ดอน" เป็นรองนายกฯ หวังยกระดับกระทรวงในการดูแลด้านเศรษฐกิจควบคู่ ขณะที่การตั้ง "นฤมล" เป็น รมช.แรงงาน เพื่อตอบโจทย์การมีงานทำให้มากยิ่งขึ้น ขอประชาชนอย่าเลือกงาน

(7 ส.ค. 2563) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เหตุผลการเพิ่มตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีให้กับ นายดอน ปรมัตถ์วินัย อีก 1 ตำแหน่งนั้นก็เนื่องมาจากต้องการให้เข้ามาดูแลงานเพื่อยกระดับกระทรวงการต่างประเทศ ในการดูแลงานด้านเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย เพราะเรื่องงานต่างประเทศไม่ใช่แค่เรื่องของความสัมพันธ์เพียงอย่างเดียวแต่ยังมีเรื่องของการลงทุน ทั้งนี้ ยังหวังให้เป็นตัวแทนนายกรัฐมนตรีในงานพูดคุยและเชิญชวนนักลุงทุนให้เข้ามาลงทุนในประเทศด้วย โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิดคลี่คลาย

ส่วนเหตุผลที่ต้องมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เพราะต้องการให้กระทรวงแรงงาน เป็นกระทรวงเศรษฐกิจ เพื่อตอบโจทย์การมีงานทำให้มากยิ่งขึ้น เพราะรัฐบาลอยากให้คนไทยพัฒนาตัวเองให้เป็นระดับหัวหน้าแรงงานและมีฝีมือ ไม่อยากให้เป็นแรงงานที่ไร้ฝีมือ

พร้อมขอประชาชนอย่าเลือกงานในช่วงนี้ โดยรัฐบาลพยายามเปิดโครงการเพื่อให้ประชาชนมีรายได้เลี้ยงครอบครัว ควบคู่กับมาตรการการเงินการคลัง และเพื่อผ่อนคลายช่วยประชาชนที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ทั้งนี้ ต่อไปจะต้องวางแนวทางว่าจะหาเงินจากไหนเข้ามาในระบบเพื่อดูแลเงินกู้

นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงกระแสตอบรับทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ ซึ่งพร้อมรับฟังทุกความเห็นทุกฝ่ายอยู่แล้ว และถามกลับมีกี่คนที่ชอบ กี่คนที่ไม่ชอบ แล้วจะทำอย่างไรให้คนที่ไม่ชอบ เปลี่ยนใจมาชอบ ทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคลแต่อยู่ที่คณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีว่ามีนโยบายอย่างไร และการขับเคลื่อนหลังจากนี้ ต้องรอการถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเพื่อทำหน้าที่ตามขั้นตอน

สำหรับกระแสข่าวว่า นายอนุชา บูรพชัยศรี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะเข้ามาเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีชื่อหลายคนที่เสนอมาแต่การตัดสินใจอยู่ที่นายกรัฐมนตรี

นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้รับข้อมูลจากสื่อว่าขณะนี้โรงแรมหลายแห่งทั้งเมืองหลัก เมืองรองถูกจองเป็นจำนวนมาก ถึง 2 แสนกว่าห้อง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีในการเดินหน้าด้านการท่องเที่ยว แต่ยังไม่เพียงพอกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งไว้ ดังนั้น จากนี้จะต้องหาวิธี แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีการทำความเข้าใจตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางโดยเฉพาะท้องถิ่นไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง โดยจะต้องทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจวงจรในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก แต่หากจะเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศก็ต้องมีมาตรการป้องกันอย่างดี ควบคู่กันไปด้วย