นักการเมืองดังเชียงใหม่ นายจ้างของพยานคดีบอส แถลงยอมรับรู้จักพ่อบอส จริงเพราะให้สปอนเซอร์สโมสรฟุตบอล แต่ยืนยันตนเองไม่เกี่ยวข้องกับการตายของพยานคนดังกล่าว

ความคืบหน้ากรณีนายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี 1 ใน 2 พยานปากเอกในคดี "บอส อยู่วิทยา" เมื่อปลายปี 2562 จนอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันบริเวณ สามแยกฟ้าธานี ถนนห้วยแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงประมาณเกือบ ตี 2 วันที่ 30 กรกฎาคม ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตว่าการเสียชีวิตครั้งนี้อาจมีเงื่อนงำเกี่ยวโยงกับคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา

เมื่อตรวจสอบประวัติผู้ตาย พบว่า ข้อมูลประกันสังคมของนายจารุชาติ ผู้ตาย พบว่า มีชื่อทำงานอยู่ที่บริษัท นิติชัย ทนายความ จำกัด อำเภอเมืองเชียงใหม่ เจ้าของบ้านตามที่ตั้งของบริษัททฯดังกล่าว คือ นายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีตสมาชิกวุฒิสภา และว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ นักการเมืองที่กว้างขวางในเชียงใหม่

ล่าสุด นายชูชัย ได้แถลงว่า นายจารุชาติเข้ามาทำงานกับตนเอง ตั้งแต่เดือนมกราคม จากการฝากของนายวัลลภ ใจชื้น เจ้าของร้านกุ้งเผาสุพรรณ ซึ่งบอกว่านายจารุชาติเป็นคนขับรถส่งปลา ทำงานได้ทุกอย่าง ตนจึงรับเข้ามาทำงาน โดยไม่รู้มาก่อนว่าเป็นพยานปากเอกในคดีสำคัญและไม่รู้ประวัติส่วนตัว นายจารุชาติจะทำงานไปๆมาๆระหว่างตนกับนายวัลลภ ตนให้ค่าจ้างรายวัน วันละ 400-500 บาท แต่ไม่ทราบว่าทำไมจึงปรากฏชื่อของนายจารุชาติ ไปอยู่ในประกันสังคมของบริษัท นิติชัย ทนายความ ส่วนอุปนิสัยของนายจารุชาติ เท่าที่เห็นเป็นคนนิสัยดี เอาใจใส่งาน ตนได้มีโอกาสพบนายจารุชาติก่อนหน้าที่จะเสียชีวิต 2-3 วัน ระหว่างนั้นช่วงที่ปรากฏชื่อ นายจารุชาตเป็นข่าว ตนไม่ได้มีโอกาสถาม เพราะไม่ค่อยเจอกัน แต่ก็คิดว่าจะสอบถามเรื่องนี้อยู่

นายชูชัย ยังยอมรับว่า ตนรู้จักกับตระกูลอยู่วิทยา เนื่องจากนายเฉลิม อยู่วิทยา พ่อของนายบอส เป็นคนให้สปอนเซอร์กับสโมสรฟุตบอลเชียงใหม่ยูไนเต็ด ที่ตนเป็นประธานตั้งแต่ปี 2560 โดยสนับสนุนเงินทำทีมปีละ 3-4 ล้านบาท รวมเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท

ยอมรับว่าเคยพูดคุยเรื่องคดีที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้คุยรายละเอียด และไม่ทราบว่านายจารุชาติเคยทำงานที่บ้านอยู่วิทยาหรือไม่ ยืนยันเรื่องนี้ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง และมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่กังวลที่ถูกเชื่อมโยงเข้าไปเกี่ยวข้อง

ขณะที่ พลตำรวจตรี พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่าจากการรวบรวมพยานหลักฐาน จากกล้องวงจรปิด เบื้องต้นสรุปได้ว่านายจารุชาติ ผู้ตาย เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เพราะจากการตรวจสอบกล้องทุกจุด ทุกเส้นทางที่นายสมชาย ตาวิโน คู่กรณี และนายจารุชาติ ผู้ตายขับรถมาตามถนน เป็นการประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันเองจนเสียชีวิต

โดยเริ่มต้นทั้ง 2 คน ไปนั่งดื่มสุราที่ร้านขายเหล้า ย่านพืชสวนโลก ถนนคันคลองชลประทาน แต่นั่งคนละโต๊ะ พอร้านปิด นายสมชาย คู่กรณีก็หยิบเหล้าออกจากร้านและเจอนายจารุชาตินั่งคนเดียวหน้าร้าน นายสมชายจึงชวนนายจารุชาติที่เพิ่งรู้จักกันไปดื่มต่อที่ร้านของผู้หญิงที่ตัวเองชอบพออยู่ ย่านสันติธรรม ทั้ง 2 คนจึงขี่รถตามกันมาระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร และมาประสบเหตุเฉี่ยวชนกันเอง

ดังนั้นหากนายสมชาย รับงานมา ตลอดเส้นทางเป็นทางมืดเปลี่ยวมีโอกาสมากมาย แต่อุบัติเหตุกลับมาเกิดในเมือง ด้วยการเฉี่ยวชนของนายจารุชาติ เอง ซึ่งก็ไม่มีความผิดปกติอะไร อย่างไรก็ดี จะตั้งกรรมการสอบสวนหาหลักฐานพยานเพิ่มเติม เพื่อคลายข้อสงสัยในคดีนี้ทั้งหมด

ขณะที่ พันตำรวจเอกวิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตผู้การจเรตำรวจ และ ปัจจุบันเป็นอนุกรรมาธิการการยุติธรรมในคณะ กรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เปิดถึงกรณีการเสียชีวิตของนายจารุชาติ ว่า ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมยังตั้งข้อสงสัยว่าเป็นอุบัติเหตุจริงหรือไม่

ดูจากคลิปวงจรปิด ลักษณะเหมือนเป็นอุบัติเหตุ แต่ต้องตั้งคำถามกลับไปว่ารถนั้นล้มได้อย่างไร ในเมื่อรถมีการขับขี่มาตรง ๆ ในความเร็วที่เท่า ๆ กัน ซึ่งตำรวจผู้รับผิดชอบจะต้องออกมาชี้แจ้งให้ละเอียด ถึงแม้ว่าทางจะญาติบอกไม่ติดใจก็ตาม

นอกจากนี้ ตำรวจได้มีการสอบปากคำกลุ่มเพื่อนหรือไม่ว่า นายจารุชาติก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุไปดื่มเหล้ากับใคร ปริมาณของเหล้าขนาดไหน ขับขี่มาจากจุดไหน และการชันสูตรศพนั้น ต้องตรวจหาสารพิษว่า ในร่างกายของนายจารุชาติ มีสารพิษหรือไม่ ซึ่งต้องยอมรับว่า มันมีข้อพิรุธหลายอย่าง สำหรับการเสียชีวิตของนายจารุชาติ

นักการเมืองดังเชียงใหม่นายจ้างพยานปากเอก ยอมรับรู้จักพ่อบอส