คดี "น้องกานต์" เด็กชายที่ชีวิตค่อนข้างรันทด พ่อแม่แยกกัน ถูกให้นอนในเต็นท์หน้าบ้าน และเสียชีวิตปริศนา เหลือศพเพียงครึ่งท่อน ล่าสุด วันนี้ตำรวจภูธรภาค 2 สรุปว่าตายผิดธรรมชาติไม่ไใช่การฆาตกรรม และต้องรอผลการตรวจพิษงู

การเสียชีวิตของน้องกานต์ เด็กชายอนวัช นนทิจันทร์ วัย 6 ขวบ ที่หายออกจากบ้าน แล้วพบศพสภาพขาดครึ่งท่อนเจอเพียงลำตัวและศีรษะ ในสวนยาง จังหวัดจันทบุรี จนถึงตอนนี้ศพท่อนล่างก็ยังหาไม่เจอ 

ล่าสุด นายแพทย์ อนิรุต วรวาท แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี อธิบายว่า บาดแผลตามร่างกาย มาจากถูกสัตว์กัดแทะ หลังเสียชีวิต เพราะรอยบาดแผลฉีกขาดของแขนและขา มาจากการถูกกระชากดึง ที่หัวไหล่มีรอยกัดแทะชัดเจน ส่วนรอยคมเขี้ยว ที่ลำคอไม่ได้ถูกเส้นเลือดใหญ่ที่จะเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิต เชื่อว่าน้องน่าจะเสียชีวิตมาก่อนแล้วถูกสัตว์มารุมกัดแทะ ซึ่งอวัยวะภายในเหลือเพียงตับ ก็ได้ส่งตรวจเพื่อหา "พิษงู" ที่ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่าอาจจะถูกงูกัด 

ส่วนเสื้อผ้าที่ถูกถอดออกจากศพ มีความเป็นไปได้ที่เสื้อผ้าจะหลุดออกมา เพราะศพมีเพียงลำตัวและศรีษะ หากสัตว์กัดแทะก็ทำให้หลุดออกได้ง่าย 

พลตำรวจโทมนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยว่า ขณะนี้สอบสวนเกือบเสร็จแล้ว เบื้องต้นสรุปได้ว่า การตายของน้องกานต์ ไม่ได้เกิดจากการกระทำของมนุษย์ 

จากการสอบปากคำและลงพื้นที่หาพยานหลักฐาน ไม่พบมูลเหตุจูงใจที่เป็นเหตุฆาตรกรรม เพราะเรื่องเงินประกัน เป็นระเบียบที่โรงเรียนต้องทำให้นักเรียนทุกคน การสอบสวนครู อาผู้ชายและอาสะใภ้ ก็ไม่ทราบวงเงินที่จะได้ จึงตัดประเด็นฆ่าเอาเงินประกันทิ้ง 

เบื้องต้นจึงมีความเห็นว่าน้องน่าจะเสียชีวิตก่อน ที่จะถูกสัตว์ทำร้ายร่างกาย แต่ก็ยังไม่ปิดประเด็น หากมีพยานหลักฐานใหม่ที่อาจเกี่ยวกับการฆาตกรรม ก็ต้องสืบสวนต่อไป ขณะนี้ทางตำรวจต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์ทั้งหมด จึงสรุปสำนวนต่ออัยการได้