ลุงพลยังล่องหนหลังประกาศจะย้ายออกจากหมู่บ้านเมื่อจบคดี ขณะที่ความเห็นแพทย์นิติเวชกรณี "น้องชมพู่" เสียชีวิตยังค้านกับความรู้สึกครอบครัวและชาวบ้าน ที่ยืนยันว่า เป็นไปไม่ได้

ความเคลื่อนไหวล่าสุด ที่บ้านน้องชมพู่ ตำรวจได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งหมด 4 จุด เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งการติดตั้งกล้องวงจรปิดเกิดขึ้นหลังจากแม่น้องชมพู่ มีความกังวลว่า จะเกิดอันตรายกับน้องสะดิ้ง พี่สาวน้องชมพู่ ที่ก่อนหน้านี้ถูกโจมตีอย่างหนัก กรณีโกหกว่า นอนหลับในช่วงที่น้องชมพู่หายไป เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม แต่ความจริง คือ เล่นโทรศัพท์มือถือ จนไม่สังเกตุว่าน้องชมพู่ หายไปได้อย่างไร

ส่วนลุงพล ลุงเขยของน้องชมพู่ หลังประกาศว่าจะย้ายออกจากพื้นที่ทันทีจบคดีนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ได้พยายามไปหาลุงพล ที่บ้านพัก 2 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่พบ ทราบเพียงว่า ไปธุระในอำเภอเมืองสกลนคร เท่านั้น

ส่วนอีกคน อย่าง น้องกัปตัน เด็กชายวัย 5 ขวบ หายจากบ้านไปช่วงเที่ยง ของวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 มีการระดมชาวบ้านกว่า 100 คนค้นหา กระทั่งพบตัวช่วงเช้าของวันที่ 5 พฤษภาคม ขณะมีคนไปพบ น้องกัปตัน อยู่บริเวณลำห้วย ในป่าทึบ ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร

สภาพอิดโรย ตามเหลือก ไม่สวมเสื้อผ้า ไม่สวมรองเท้า ตัวเปื้อนโคลน ตามลำตัว ขา และ เท้า มีบาดแผล คาดว่าเกิดจากต้นหญ้าบาด โดยวันที่น้องหายตัวไป อากาศร้อนจัด จึงเชื่อว่า น้องถอดเสื้อผ้าเอง เพราะ เกิดอาการระคายเคือง

ซึ่ง 2 กรณีนี้ สอดคล้องกัน คือ เด็กสามารถเดินหลงป่ารกทีบไปได้ไกลถึง 2 กิโลเมตร หรือ อาจจะมากกว่านั้น และร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของเด็กทั้ง 2 คน ก็เป็นไปในลักษณะเดียวกันกับที่ปรากฎบนร่างของน้องชมพู่ นอกจากนี้ ยังมีกรณีของการถอดเสื้อผ้า ซึ่งเทียบเคียงกับน้องชมพู่ วันที่น้องหายตัวไปอุณหภูมิสูง 42 องศา

ส่วนอีกคน อย่างน้องกัปตัน เด็กชายวัย 5 ขวบ หายจากบ้านไปช่วงเที่ยง ของวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 มีการระดมชาวบ้านกว่า 100 คนค้นหา กระทั่งพบตัวช่วงเช้าของวันที่ 5 พฤษภาคม ขณะมีคนไปพบ น้องกัปตัน อยู่บริเวณลำห้วย ในป่าทึบ ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร สภาพอิดโรย ตามเหลือก ไม่สวมเสื้อผ้า ไม่สวมรองเท้า ตัวเปื้อนโคลน ตามลำตัว ขา และ เท้า มีบาดแผล คาดว่าเกิดจากต้นหญ้าบาด โดยวันที่น้องหายตัวไป อากาศร้อนจัด จึงเชื่อว่า น้องถอดเสื้อผ้าเอง เพราะ เกิดอาการระคายเคือง

ซึ่ง 2 กรณีนี้ สอดคล้องกัน คือ เด็กสามารถเดินหลงป่ารกทีบไปได้ไกลถึง 2 กิโลเมตร หรือ อาจจะมากกว่านั้น และ ร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของเด็กทั้ง 2 คน ก็เป็นไปในลักษณะเดียวกันกับที่ปรากฎบนร่างของน้องชมพู่ นอกจากนี้ ยังมีกรณีของการถอดเสื้อผ้า ซึ่งเทียบเคียงกับน้องชมพู่ วันที่น้องหายตัวไปอุณหภูมิสูง 42 องศา

โดยประเด็นน้องชมพู่เสียชีวิตเอง ก็ยังคงค้านกับความรู้สึกของครอบครัว เริ่มจาก แม่-พ่อ น้องชมพู่ ที่ไม่เชื่อว่า ลูกเสียชีวิตเอง เพราะ ขัดแย้งกับพยานหลักฐานที่ตำรวจพบ นอกจากนี้ ยังยืนยันด้วยว่าน้องถอดเสื้อผ้าเองไม่ได้

เช่นเดียวกับ ยายตุน คนที่พบรองเท้าน้องชมพู่เป็นคนแรก ก็ไม่เชื่อว่าน้องชมพู่เสียชีวิตเอง เพราะ ตั้งแต่ตัวเองขึ้นเขาไปเก็บผักหวาน มากว่า 30 ปี ก็ไม่เคยเห็นเด็กวัย 3 ขวบขึ้นไปบนภูเขาได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตุ เกี่ยวกับรองเท้าน้องชมพู่ ที่พบไม่มีร่องรอยเปื้อนดินโคลน อยู่เลย

คดีของน้องชมพู่ ล่าสุด ยังไม่มีความชัดเจน เพราะ ผลชันสูตรของแพทย์กับแนวทางการสืบสวนของตำรวจยังไม่สอดคล้องกัน ซึ่งต้องรอความชัดเจนจาก ทางคณะกรรมาธิการการกฎหมาย ยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ที่จะมีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งแพทย์นิติเวช ผู้ผ่าพิสูจน์ศพครั้งที่ 1 และ 2 พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ดูแลการสืบสวนคดีนี้ มาชี้แจ้งในวันพรุ่งนี้ 

ลุงพลล่องหนหลังประกาศจะย้ายออกจากหมู่บ้านเมื่อจบคดี