สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง เตือนคนไทยให้ปฏิบัติตามมาตรการ หลังโควิดระบาดระลอดใหม่

(19 มิ.ย. 2563) เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง (Royal Thai Embassy , Beijing) ลงประกาศแจ้งเตือน เรื่อง การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ฉบับที่ 7 โดยมีเนื้อหาระบุไว้ ดังนี้

ตามที่มีการรายงานข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ในพื้นที่กรุงปักกิ่งอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2563 เป็นต้นมา และเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 มิถุนายน 2563 สำนักงานเทศบาลกรุงปักกิ่งได้ประกาศเกี่ยวกับสถานการณ์และมาตรการต่าง ๆ ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอสรุปประเด็นสำคัญที่อาจส่งผลกระทบกับคนไทยที่พักอาศัยในกรุงปักกิ่ง ดังนี้

ตั้งแต่วันที่ 11- 17 มิ.ย. 2563 พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 158 ราย โดยผู้ติดเชื้อทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับตลาดส่งออกซินฟาตี้ และได้แพร่ระบาดไปยัง 9 เขตของกรุงปักกิ่ง ได้แก่ เขตเฟิงไถ เขตต้าชิง เขตไห่เตี๊ยน เขตฝางชาน เขตซีเฉิง เขตตงเฉิง เขตเฉาหยาง เขตสือจิ่งชาน และเขตเหมินโถวโกว

กรุงปักกิ่งจึงประกาศยกระดับมาตรการฉุกเฉินจากระดับ 3 เป็นระดัน 2 ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.2563 เป็นต้นไป โดยมีสรุปมาตรการสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ผู้ที่มีประวัติเดินทางไปในพื้นที่ความเสี่ยงสูง/หรือความเสี่ยงปานกลาง รวมทั้งตลาดชินฟาตี้ทุกคนเดินทางออกจากกรุงปักกิ่ง สำหรับบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ความเสี่ยงต่ำและจำเป็นจะต้องเดินทางออกนอกกรุงปักกิ่งจะ ต้องยื่นผลตรวจกรดนิวคลีอิกที่ตรวจในช่วงระยะเวลาภายใน 7 วัน
2.ยกเลิกการเรียนการสอนที่สถานศึกษาทุกระดับชั้น โดยให้นักเรียน/นักศึกษาทุกคนเรียนผ่านระบบออนไลน์ และระงับการกลับเข้าสถานศึกษาทุกแห่ง
3.กรณีเดินทางไปโรงพยาบาลจะต้องทำการนัดเวลาล่วงหน้าก่อน
4.และรณรงค์ให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะในพื้นที่ปิด พื้นที่แออัด และในอาคาร และควรรักษาระยะห่าง 1 เมตร และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการชุมนุม ประชุม หรือกินข้าวร่วมกัน
5.บุคคลที่มีประวัติเดินทางไปตลาดชินฟาตี้ ตลาดยวี่เฉวียนตง ตลาดเทียนเถาหงเหลียน รวมทั้งผู้ที่มีประวัติใกล้ชิดกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว และผู้ที่มีความเสี่ยงจะต้องเข้ารับการตรวจกรดนิวคลีอิก
6.จำกัดจำนวนผู้ใช้รถขนส่งมวลชนและควบคุมให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย นอกจากนี้จะมีการตรวจวัดอุณหภูมิ ระบายอากาศ และฆ่าเชื้อพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ
7.ห้ามบุคคลเดินทางเข้าพื้นที่ความเสี่ยงปานกลางและความเสี่ยงสูง สำหรับพื้นที่ความเสี่ยงสูงหากมีการเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าวแล้ว จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากพื้นที่

โดยขอให้คนไทยที่อาศัยในกรุงปักกิ่งเพิ่มความระมัดระวัง และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการอย่างเคร่งครัด กรณีมีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกกรุงปักกิ่ง ขอให้ตรวจสอบมาตรการการเดินทางกับเจ้าหน้าที่ในชุมชนของท่านและจุดหมายปลายทางด้วย

ทั้งนี้ ขอให้คนไทยในกรุงปักกิ่งและพื้นที่ใกล้เคียงโปรดติดตามข้อมูลข่าวสารสำคัญจากสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างใกล้ชิด กรณีคนไทยต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนสามารถติดต่อสายด่วน สถานเอกอัครราชทูตฯ ทางโทรศัพท์หมายเลข 157-2731-2531