เจ้าของอู่รถแท็กซี่ แฉนายสิทธิชัย ลุงคนขับแท็กซี่ วัย 72 ปี สร้างเรื่องรับเงินบริจาค ซึ่งได้เงินถึง 8 ล้าน ก่อนปิดบ้านหายล่องหนไม่ใช้หนี้

เกิดกระแสดราม่าอีกครั้ง หลังนายปรีชา ชุ่มสมบัติ อายุ 49 ปี เจ้าของอู่แท็กซี่มังกรเจ้าพระยา ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า นายสิทธิชัย ใกล้ชิด (ลุงขับแท็กซี่) สร้างเรื่องน่าสงสารว่าไม่มีเงิน ต้องเช่าบ้านอยู่ ก่อนมีผู้ใจบุญบริจาคเงินให้ถึง 8 ล้านบาทในวันเดียว

แต่กลับพบว่า หลังรับเงินบริจาค กลับหนีหายไม่ยอมใช้หนี้ ค้างค่าเช่ารถ ทั้งรถของลุงเองและลูกชาย รวม 14,970 บาท ไปทวงถามก็ไม่ยอมคืน อ้างว่าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา โทรศัพท์ไปหาก็ปิดเครื่องหนี จนต้องแจ้งความดำเนินคดี

แถมยังระบุว่า เรื่องที่ลุงพูดก่อนได้รับบริจาคเงินว่า บ้านที่อยู่นั้นต้องเช่า ไม่เป็นความจริง แต่เป็นบ้านของภรรยาเก่า และลูกชายก็มีงานทำ ไม่ได้ยากจนขัดสน แถมหลังได้เงินไปแล้ว พบว่าไปซื้อรถป้ายแดงมาขับด้วย

คุณพนิตนาฏ พรหมบังเกิด ผู้สื่อข่าวช่อง 8 เดินทางลงพื้นที่ปั้มแห่งหนึ่งเพื่อพิสูจน์ความจริง เป็นปั้มน้ำมันที่คุณลุงสิทธิชัย เดินทางมาเติมน้ำมันเป็นประจำ นางรุ่ง ผู้จัดการปั้มน้ำมัน บอกว่า สมัยก่อนลุงขับรถแท็กซี่เก่าๆ กระทั่งมีบริจาคเงินช่วยเหลือ พบว่า เมื่อ 3 วันก่อน ลุงเปลี่ยนไปขับรถแท็กซี่ป้ายแดง

ผู้สื่อข่าว ยังลงพื้นที่ไปตามจุดจอดรถแท็กซี่ต่างๆ ที่บอกว่ามีคนพบคุณลุง นายลาภิศ เพชรแย้ม คนขับแท็กซี่ อู่เดียวกัน เล่าว่า รู้จักกับคุณลุงและลูกชาย มานานแล้ว

ตอนแรกเห็นข่าวก็รู้ว่าลุงโกหก ยืนยันว่าเห็นลุงไปออกรถแท็กซี่ใหม่ป้ายแดง และหลังจากที่คุณลุงได้เงินไป ก็ไม่สามารถติดต่อได้

ทีมข่าวยังไปที่บ้านของคุณลุงพบว่า บ้านหลังนี้ยังคงถูกปิดเงียบเช่นเคย ผู้สื่อข่าวพยายามจะตะโกนเรียนแต่ก็ไม่มีใครออกมา เพื่อนบ้านต่างยืนยันว่าลุงไม่อยู่ที่นี้นานแล้ว ตั้งแต่วันที่ได้รับเงิน 8 ล้าน ลูกสาวมารับออกไปและไม่กลับมาอีกเลย

ทั้งนี้ หลังข่าวเผยแพร่ออกไปเพียงวันเดียว พบว่าลุงสิทธิชัย ได้ติดต่อคืนเงินเจ้าของอู่เรียบร้อยแล้ว ทำให้เจ้าของอู่ เดินทางไปถอนแจ้งความทันที  เนื่องจากได้รับเงินที่ติดหนี้คืนแล้ว พร้อมระบุว่า ความจริงก็ไม่ได้อยากเอาเรื่องตั้งแต่แรก  

ส่วนที่บ้านเกิดลุงสิทธิชัย ที่จังหวัดชัยนาท นางชุติมา จันดาทอง อายุ 70 ปี น้องสาว เปิดใจว่า พี่ชายกลับบ้านปีละ 1-2 ครั้ง ล่าสุดมางานศพแม่เมื่อ 6 เดือนก่อน และยังยืนยันว่า พี่ชายอยู่บ้านเช่าจริงๆ และสุขภาพก็ไม่แข็งแรงป่วยโรคไตระยะที่ 2 ตอนนี้เป็นห่วงมาก เพราะตนก็ติดต่อพี่ชายไม่ได้เหมือนกัน

ส่วนเรื่องเบี้ยวจ่ายค่าเช่ารถแท็กซี่ ในฐานะน้องสาว พูดได้เลยว่า ครอบครัวเป็นลูกนายทหาร มีสัจจะ ไม่โกหก และไม่ฉ้อโกงใครอย่างแน่นอน แต่ที่ยังไม่จ่ายค่าเช่า อาจจะเครียดเรื่องป่วยกำเริบ

ล่าสุด เพจที่นี่สมุทรปราการ โพสต์ภาพลุงสิทธิชัย พร้อมทั้งสลิปการโอนเงินบริจาค ระบุว่า ลุงโอนเงินบริจาค 400,000 บาท ตั้งแต่วันแรกๆ ที่ได้รับเงินมา

แบ่งเป็นเงินสินน้ำใจให้กับเถ้าแก่ที่อู่คนใหม่ 100,000 บาท บริจาคอุปกรณ์การแพทย์ไฟป่า จังหวัดเชียงใหม่ 100,000 บาท ร่วมบริจาคซื้อชุดอุปกรณ์การแพทย์ ป้องกันโควิด-19 100,000 บาท และ มูลนิธิเพื่อคนขับแท็กซี่ 100,000 บาท

แอดมินเพจ บอกว่า ที่ตัดสินนำหลักฐานออกมาแสดงเพราะต้องการให้รู้ความจริงจากทั้ง 2 ฝ่าย ที่ผ่านมาก็เห็นลุงลำบากจริง ส่วนสาเหตุที่ลุงย้ายบ้านนั้น ลุงได้ชี้แจ้งแต่แรกแล้วว่า หากได้เงินมา จะไปซื้อบ้าน ซื้อรถเพื่อมาใช้ทำงานต่อไป ส่วนเบอร์โทรศัพท์มือถือที่เปลี่ยนเพราะมีพวกมิจฉาชีพโทรมาอ้างเป็นญาติขอยืมเงิน

ลุงแท็กซี่ยังล่องหน ด้านเจ้าของอู่ เผย โอนเงินคืนแล้ว