เร่งล่าอีก 1 หัวโจก ก่อเหตุจลาจลแหกคุกบุรีรัมย์ แม่วอนลูกให้มอบตัวหวั่นถูกวิสามัญ

เจ้าหน้าที่จัดกำลังไล่ล่าตัว นายธันยพงศ์ สินพูน หรือ นพ อายุ 26 ปี ผู้ต้องขังคดียาเสพติด ที่เป็นหัวโจกก่อเหตุจลาจล เผาเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนแหกคุกหลบนี้ไปเมื่อวานที่ผ่านมา เบื้องต้นรู้เส้นทางการหลบหนีแล้ว 

พันตำรวจโทประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า ผู้ต้องขังที่ก่อเหตุจลาจลและหลบหนี มีทั้งหมด 11 คน ตามจับมาได้แล้ว 10 คน ส่วนความเสียหาย เบื้องต้นพบเสียหายเกือบ100 เปอร์เซ็นต์ เหลือใช้ได้เพียงสถานพยาบาลเท่านั้น 

ส่วนสาเหตุการอยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่พบหลักฐานสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ พบว่า มีอีก 1 ผู้ต้องขังที่น่าจะเป็นแกนนำหลักในการวางแผนและปลุกระดม เชื่อว่าน่าจะวางเเผนมานาน พยายามปลุกปั่นคนกว่า 100 คน ให้ร่วมก่อเหตุ 

คุณกานต์สินี สิทธิโชติพงศ์ ผู้สื่อข่าวช่อง 8 เดินทางไปที่หมู่บ้านของนายธันยพงศ์ ในตำบลพรสำราญ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ พูดคุยกับป้าผู้ต้องหา บอกว่า หลานชายเคยติดคุกคดียาเสพติดเมื่อปี 2557 และเพิ่งพ้นโทษมาเพียง 2 เดือน ก่อนถูกจับอีกครั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเพิ่งไปเยี่ยมหลานวันที่ 4 มีนาคม ก่อนที่เรือนจำจะขอความร่วมมืองดเยี่ยม 

หากหลานฟังอยู่ อยากให้ไปมอบตัวกับตำรวจ เพราะกลัวว่าจะถูกวิสามัญ และครอบครัวยินดีที่จะให้ความร่วมมือเต็มที่ หากพบเบาะแสหลานชาย 

เช่นเดียวกับเเม่ผู้ต้องหา บอกทั้งน้ำตาว่า กลัวว่าลูกจะถูกจับตาย หัวอกคนเป็นเเม่ ลูกผิดอย่างไรก็ยังรัก 

ด้านพันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่ามีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำประมาทเลินเล่อด้วยหรือไม่ และสาเหตุที่เกิดขึ้น อาจจะมาจากความเครียดของผู้ต้องขังที่ถูกสั่งให้งดเยี่ยม

ยืนยัน เรือนจำมีมาตราการเกี่ยวกับเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด ใช้วิธีคนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า 

ทั้งนี้ พบว่ามีผู้ต้องขังที่อยู่ในระหว่างคดีและฝากขัง เบื้องต้นประมาณ 400 กว่าคน ซึ่งจะมีการขอเลื่อนการพิจารณาคดีไปสักระยะ ส่วนผู้ต้องขังใหม่ จะต้องขนย้ายไปอยู่ที่เรือนจำอำเภอนางรอง ซึ่งใกล้ที่สุดในการบริหารจัดการ

เร่งล่านักโทษก่อเหตุจลาจลแหกห้องขังที่ จ.บุรีรัมย์