อ.อ๊อด นำหลักฐานยื่นฟ้อง ส.ส.สิระ 3 ข้อหา จากกรณีเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา คู่กรณีได้ถ่ายคลิปวิดีโอมาโพสต์ต่อว่าทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านบาท

(27 มี.ค. 2563) รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ "อาจารย์อ๊อด" อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมทนายความ นำหลักฐานเข้ายื่นฟ้องร้อง นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ดูหมิ่นซึ่งหน้า และดูหมิ่นด้วยการโฆษณา รวม 3 ข้อหา จากกรณีเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ถูกนายสิระ และทีมงานถ่ายคลิปวิดีโอ ขณะที่นายสิระ พูดจาต่อว่าทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านบาท

โดย รศ.ดร.วีรชัย ระบุว่า วันเกิดเหตุ ตนเองไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ตามหมายเรียกในฐานะพยาน คดีที่ถูกนายสิระ แจ้งความดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีที่ตนเองตรวจสอบคุณภาพของหน้ากากอนามั้ย ที่นายสิระนำไปแจกให้ประชาชน แล้วออกมาระบุว่า เป็นของไม่ได้มาตรฐาน วัสดุที่ใช้ทำอาจก่อให้เกิดมะเร็งแก่ผู้ที่นำไปใช้ แต่จู่ ๆ นายสิระก็บุกมาต่อว่า พาดพิงตำแหน่งหน้าที่การงาน ตำแหน่งวิชาการ และชื่อเสียงมหาวิทยาลัยที่ตนเองทำงานอยู่ ทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก จึงต้องการปกป้องสิทธิและศักดิ์ศรีของตนเอง

พร้อมยืนยันว่า การตรวจสอบหน้ากากที่นายสิระ นำมาแจก มาจากการที่ประชาชนส่งมาให้ตรวจ ตนเองก็ตรวจไปด้วยความสุจริต ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ และเมื่อผลตรวจออกมาว่าไม่ได้มาตรฐาน ก็ยังแนะนำให้นายสิระ นำไปคืน เพื่อที่จะขอคืนเงิน แต่กลับเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โดยยอมรับว่าตนเองได้บล็อกบัญชีไลน์ของนายสิระ ไปแล้ว แต่ไม่ได้บล็อกเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งที่ผ่านมานายสิระ ก็ไม่เคยติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย ดังนั้น จึงขอให้ว่ากันไปตามพยานหลักฐานและให้ศาลเป็นผู้ตัดสินว่าใครถูกหรือผิด

นอกจากนี้ ส่วนตัวยังตั้งข้อสงสัยว่าตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง บางนาย อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะในวันดังกล่าวตนเองให้ปากคำเสร็จแล้ว แต่กลับถูกตำรวจนายหนึ่งหน่วงเวลาไว้ โดยอ้างว่ายังสอบปากคำไม่เสร็จ ก่อนที่ตนเองจะได้ยินว่านายสิระ กำลังมา ซึ่งตนเองมองว่าได้รับการปฏิบัติจากตำรวจอย่างไม่สมควร และคิดอยากจะร้องเรียนนายกรัฐมนตรีถึงพฤติกรรมของตำรวจนายนี้ แต่เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานชัดเจน เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตของตนเองเท่านั้น

อีกทั้งยังทราบว่าประธาน ก.ตร. ของ สน.ทุ่งสองห้อง ก็เป็นคนรู้จักของนายสิระ ขณะที่ตัวนายสิระ ก็เป็น ส.ส. เป็นนักกฎหมาย ทำให้ตนเองเกิดความหวาดกลัว ดังนั้น จึงขอหารือกับผู้ใหญ่ก่อน หากพบว่าเข้าข่ายความผิดใด ก็จะดำเนินการอย่างแน่นอน