สํานักงานศาลยุติธรรมร่วมมือกรมราชทัณฑ์ ยกระดับคุ้มครองสิทธิฯ ผู้ต้องหาและจำเลย นำระบบ video conferenceช่วยอำนวยความยุติธรรม เพิ่มความปลอดภัยในเรือนจำ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19

วันนี้ (24 มีนาคม 2563) เวลา 08.30 น. นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม และพันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ นำระบบดิจิทัลมาใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อยกระดับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของผู้ต้องหาและจำเลย การบริหารโทษของผู้ต้องขัง และการรักษาความปลอดภัยในเรือนจำ ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 12 อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร

นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า สำนักงานศาลยุติธรรมเล็งเห็นความสำคัญของการบูรณาการและการเชื่อมโยงข้อมูลระบบสารสนเทศระหว่างหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพและสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน จึงได้ร่วมมือกับกรมราชทัณฑ์ดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลระบบฐานข้อมูลผู้ต้องขังและร่วมกันพัฒนาระบบการออกหมายอาญา การส่งและรายงานผลตามหมายอาญา และการรับส่งข้อมูลคำพิพากษาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ระบบการนำข้อมูลของผู้ต้องขังมาใช้ประกอบการพิจารณาคำขอปล่อยชั่วคราวโดยวิธีทาอิเล็กทรอนิกส์ การดำเนินงานเกี่ยวกับการผัดฟ้อง ฝากขัง โดยการสอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ (Video Conference) การอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลสูงและศาลชั้นต้นในลักษณะการประชุมทางจอภาพระหว่างศาลกับเรือนจำ รวมถึงการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและขั้นตอนการดำเนินคดีและสิทธิแก่ผู้ต้องขัง

เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่าการดำเนินการตามความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นการยกระดับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของผู้ต้องหาและจำเลย นอกจากนี้ยังช่วยลดการเบิกตัวจำเลยมาศาล ลดการใช้เครื่องพันธนาการลดความเสี่ยงในการหลบหนีเมื่อมีการควบคุมจำเลยมาศาล และทำให้ในคดีอาญาบางคดีที่มีจำเลยหลายคนและต้องขังอยู่คนละเรือนจำได้รับสิทธิจากผลของการอ่านคำพิพากษาและคำสั่งของศาลชั้นต้นพร้อมกันรวมทั้งช่วยให้จำเลยและคู่ความสามารถเข้าถึงการอำนวยความยุติธรรมได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

ด้านนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การดำเนินการตามความร่วมมือดังกล่าวนอกจากจะเป็นการยกระดับการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของผู้ต้องหาและจำเลยระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ ยังสามารถลดภาวะความเสียง ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในขณะนี้ โดยการลดการเบิกตัวผู้ต้องหาและจำเลยมาศาล อีกด้วย