แม้จะผ่านพ้นเหตุการณ์กราดยิงกลางเมืองโคราชไปแล้ว แต่ทุกฝ่ายจำเป็นต้องทบทวนปัญหาและอุปสรรค รวมทั้งการวางแผนและการปฏิบัติเพื่อระงับเหตุ เพื่อเป็นบทเรียนในการปรับปรุงแก้ไข นำไปสู่ความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่

ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับตำรวจทั้ง 3 นาย คือ ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา และ ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย จากหน่วยอรินทราช และ ด.ต.ชัชวาลย์ แท่งทอง ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ที่กำลังลงจากรถเพื่อระงับเหตุแต่ถูกคมกระสุนปืนสงคราม HK33 ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับวีรบุรุษผู้พิทักษ์สันติราช

แต่ก็มีคำถามจากหลายฝ่ายว่า เจ้าหน้าที่มีเครื่องไม้เครื่องมือในการป้องกันตัวอย่างไร มีประสิทธิภาพในการป้องกันได้มากน้อยแค่ไหน เพราะการเตรียมพร้อมด้านอุปกรณ์ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่

ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้ไปพูดคุยกับ ด.ต.พลาม พรมจำปา หรือ ครูพลาม อดีตครูฝึกหน่วยรบพิเศษ ค่ายนเรศวร ยืนยันว่า เสื้อเกราะที่ใช้ทั่วไปในหน่วยปฏิบัติการพิเศษของไทย ทั้งระดับ 3 สามารถป้องกันกระสุนกึ่งเจาะเกาะได้ ทั้งปืน HK ที่ใช้กระสุนขนาด 5.56 และ M16 A2

แต่ถ้าเป็นกระสุนปืน ชนิดเจาะเกราะโดยตรงแล้ว แม้นำเกราะกันกระสุนระดับ 3 มาซ้อนกัน 2 ชั้น กระสุนก็ยังสามารถทะลุผ่านไปได้ และเชื่อว่าน่าจะทะลุได้ถึง 7 ชั้น แต่ไม่แน่ใจว่า จ่าคลั่งใช้กระสุนปืนแบบใด

"ครูพลาม" ยัน เสื้อเกราะตำรวจ สามารถกันกระสุนได้จริง