ลูกชายเมาเหล้าคลั่งหนัก อ้างทะเลาะพ่อแม่ ห้ามดื่มเหล้าในบ้าน คว้ามีดกระหน่ำแทงพ่อเสียชีวิต และถีบแม่แขนหัก

วันที่ 8 ก.พ. 2563 เมื่อเวลา 00.30 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ต.วัชรพงษ์ เทียนประถัมภ์ สารวัตรสอบสวน สภ.คลองหลวง รับแจ้งมีเหตุลูกชายก่อเหตุทำร้ายร่างกายบุพการี ในบ้านพักหลังหนึ่ง ซอยโรงเรียนวัดคุณหญิงส้มจีน หมู่ 14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

โดยในที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ด้านหน้ามีประชาชนมุงดูจำนวนมาก ซึ่งมีการเปิดเพลงเสียงดังมาจากภายในบ้านปะปนกับเสียงเอะอะโวยวายของชายคลุ้มคลั่ง นอกจากนี้ประตู-หน้าต่างบ้านยังล็อคทุกทางทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปด้านในไม่ได้ แต่จากการปีนดูตามช่องลม ก็พบนายธำรงศักดิ์ อายุ 66 ปี นอนได้รับบาดเจ็บอยู่ในห้องครัว เสียเลือดเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงต้องรีบงัดประตูเข้าไปช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยเบื้องต้นพบว่า ถูกของมีคมแทงเข้าที่หน้าอก ราวนมซ้ายเกือบ 10 แผล ทว่าผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ทราบชื่อคือ นางจรีวรรณ อายุ 59 ปี มารดาผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลการุณเวช เนื่องจากแขนหัก และถูกของมีคมบาด ขณะที่ตัวผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นลูกชายของผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ยังคงปิดไฟขังตัวเองอยู่ภายในห้องพักส่วนตัวพร้อมกับเปิดเพลงเสียงดังต่อเนื่อง

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าเจรจาเพื่อขอให้ นายศราวุธ หรือ "อ๊อด ออโต้" อายุ 42 ปี ที่เป็นผู้ก่อเหตุ ให้สงบสติอารมณ์ และยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที นายศราวุธ จึงยอมออกมาจากห้องพัก และมอบตัวในที่สุด โดยมีการกันประชาชนออกนอกบริเวณเพื่อป้องกันการรุมประชาทัณฑ์ ก่อนนำตัวขึ้นรถไปที่ สภ.คลองหลวง

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพโดยไม่สะทกสะท้าน ว่า สาเหตุเกิดจากการมีปากเสียงกัน เพราะพ่อแม่ด่าทอตนเองที่นั่งกินเหล้าอยู่ภายในบ้านพร้อมกับเปิดเพลงเสียงดัง และจะแจ้งตำรวจเพื่อให้มาจับตนเอง ทำให้เกิดอารมณ์โมโหจึงชี้หน้าด่าพ่อแม่ และพ่อก็หยิบมีดมาทำร้ายตนเองก่อน ตนเองจึงวิ่งเข้าห้องไปหยิบมีดที่ห้องนอนมา โดยจำได้ว่าตนเองถีบแม่จนล้มลงกับพื้น และใช้อาวุธมีดแทงพ่อจนล้มลง ก่อนที่ตนเองจะเข้าไปนั่งกินเหล้าฟังเพลงในห้อง

ด้านนายสมศักดิ์ ภาคีขาว อายุ 63 ปี อาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า บ้านหลังเกิดเหตุอยู่ด้วยกัน 3 คน โดยมีพ่อ แม่ และลูกชาย ที่เป็นหลานตนเอง ที่ผ่านมามีปากเสียงกันบ่อยครั้งเพราะลูกชายเสพยาเสพติดจนคลุ้มคลั่ง ตนเองจึงบอกให้พ่อแม่ของผู้ก่อเหตุว่าให้ตำรวจจับไปดำเนินคดี แต่ผู้เป็นพ่อและแม่มีความสงสารจึงไม่กล้าไปบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจเพราะกลัวลูกชายถูกจับกุม กระทั่งเมื่อกลางดึกผู้ตายได้ไปเรียกตนเองให้มาช่วยเหลือหลังมีปากเสียงกับลูกชายเพราะมีอาการคลุ้มคลั่ง ตนเองจึงเดินทางมาก็พบว่ามีปากเสียงกันอย่างรุนแรงและทำร้ายร่างกายกันจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ