รัฐบาล ยันน้ำอุปโภค-บริโภคมีเพียงพอตลอดฤดูแล้ง เดินหน้าขับเคลื่อนแผนบริหารจัดการภาคเกษตร

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้การแก้ปัญหาภัยแล้ง ว่า รัฐบาลยืนยันน้ำอุปโภคและบริโภคจะมีใช้ตลอดทั้งปี ส่วนน้ำสำหรับทำการเกษตรนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรณรงค์ขอความร่วมมือเกษตรกร เพื่อสร้างการรับรู้ต่อไปและจะมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบกลางในการดำเนินโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งกว่า 2,000 โครงการ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ได้กำชับเรื่องการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนไม่ใช่แก้เฉพาะปีต่อปีหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ด้านนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในปัจจุบันพบว่ามีผลกระทบบางพื้นที่ ตอนนี้ความพยายามบูรณาการจากหลายหน่วยงานเริ่มดำเนินการแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ปัญหาระยะสั้น"แล้งนี้ต้องอยู่รอด" รวมถึงมาตการแก้ระยะกลางระยะยาว ขณะเดียวกันพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ย้ำว่าต้องมีน้ำปะปาใช้ไปตลอดฤดูแล้ง อย่างไรก็ตามขณะนี้มีเขตประสบภัยแล้งแล้ว 18 จังหวัด นอกจากนี้มีพื้นที่เสี่ยง 31 จังหวัดที่หากไม่เตรียมแผนรองรับหรือไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็จะเกิดภัยแล้งได้

นายสมเกียรติ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในพื้นที่เขตกรุงเทพฯและปริมณฑลที่อยู่ในเขตการประปานครหลวงมีปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำ แต่ได้มีการแก้ปัญหาโดยการผันน้ำจากแม่กลองขับไล่น้ำเค็มรุกล้ำเจ้าพระยาให้กลับสู่ปกติทำให้น้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแล้ว นอกจากแผนระยะสั้นแล้วยังมีแผนงานที่ต้องดำเนินการต่อโครงการขนาดใหญ่วงเงินเกิน 1,000 ล้านบาท รงม 57 โครงการ เพิ่มน้ำต้นทุน 4,398 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับผลประโยชน์ 7.34 ล้านไร่

"สถานการณ์ต่างๆ ขณะนี้เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และปัญหาระยะยาว โดยสัปดาห์หน้าพล.อ.ประวิตร จะนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมงบบูรณาการแก้ไขปัญหาน้ำทั้งหมดที่ได้รับการจัดสรรในงบประมาณปี 63 เกือบ 6 หมื่นล้านบาท และในปี 64 จะวางรากฐานแหล่งน้ำให้ได้ โดยมีโครงการขนาดใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ มีบัญชาอย่างชัดเจนให้ทุกหน่วยงานดำเนินการแก้ปัญหาแบบนี้ โดยสั่งการพิเศษว่าในระยะ 10 วัน ต้องรู้ผลแก้ปัญหาไปถึงไหนอย่างไรบ้าง" เลขาธิการ สทนช. กล่าว