กรณีที่โซเชียลแชร์รูปภาพ ลุงน่าสงสาร ขับรถแทรกเตอร์ข้ามอำเภอ พาภรรยาป่วยมะเร็งมาหาหมอ ล่าสุด โดนถ่ายคลิปแฉว่า เอาเงินบริจาคไปซื้อบริการทางเพศหญิงสาว ในโรงแรมกลางเมืองนครราชสีมา

คลิปเหตุการณ์ ขณะชายคนหนึ่ง ยืนอยู่กับหญิงวัยเดียวกัน หน้าเคาท์เตอร์ โรงแรมแห่งหนึ่ง อำเภอเมืองนครราชสีมา ซึ่งฝ่ายหญิงออกหน้ารับแทนว่า พาชายคนดังกล่าว มาเปิดห้องพักหลับนอนกัน 1 คืน โดยชายคนดังกล่าว ไม่ได้ตอบคำถามพนักงานเลยแม้แต่คำเดียว แถมพยายามขอร้องไม่ให้ถ่ายคลิป

คลิปนี้ พนักงานของโรงแรมดังกล่าว นำมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพราะคุ้นหน้าชายคนนี้ คาดว่า เป็นคนเดียวกัน กับนายสมพงษ์ อายุ 46 ปี ลุงที่ขับแทรกเตอร์ข้ามอำเภอ จากอำเภอแก้มสนามนาง เพื่อพาภรรยาป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มาหาหมอที่โรงพยาบาลชื่อดัง ในอำเภอเมือง แล้วไม่มีเงิน ต้องกางเต็นท์นอนในโรงพยาบาล จนมีคนสงสารร่วมบริจาคเงิน สิ่งของจำนวนมาก

คุณสมเกียรติ นูมะหันต์ ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ไปพูดคุยกับกลุ่มพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เล่าว่า ลุงและผู้หญิงขายบริการ มาเปิดห้องตอนประมาณ 6 โมงกว่า เป็นการเปิดแบบค้างคืน เลยสงสัยว่า นำเงินบริจาคมาใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่

กระทั่งผ่านไป 1 ชั่วโมง ลุงก็ลงมา จึงตัดสินใจถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากหากว่า เป็นความจริง ก็ไม่อยากให้ผู้ที่ร่วมบริจาคเงินไปโดนหลอก หากอยากช่วยเหลือ ก็ให้หยุดบริจาคส่วนตัว แต่ให้บริจาคผ่านโรงพยาบาลแทนจะดีกว่า

ล่าสุด นายสมพงษ์ ลุงขับแทรกเตอร์ที่ถูกแฉ อยู่ในสภาพนอนฟุบอยู่ กลิ่นแอลกอฮอลล์คละคลุ้ง ยังสวมเสื้อผ้าชุดเดียวกับในคลิป ยืนยันว่า ไม่ได้ซื้อบริการทางเพศหญิงสาว แต่ไปเปิดโรงแรมจริง นอนได้ชั่วโมงเดียว เกิดคิดถึงภรรยา จึงลงมาจ่ายเงิน และถูกถ่ายคลิป ส่วนหญิงขายบริการที่ปรากฎในคลิป อยู่ที่หน้าเคาเตอร์อยู่แล้ว พนักงานเข้าใจผิดเอง

แต่ต่อมา เมื่อทีมข่าวลองไปสอบถามใหม่อีกรอบ ก็ให้การใหม่ที่แตกต่าง อ้างว่าวันนั้นลูกชายอายุ 15 ปีเดินทางจากกรุงเทพฯ มาเยี่ยมภรรยา แล้วบอกตนว่า จะนอนค้างที่โรงพยาบาลด้วย ตนไม่อยากให้ลูกลำบาก นอนตากยุง จึงตัดสินใจเอาเงิน 300 บาท ที่เก็บสะสมจากการทำงานคาร์แคร์ในอดีต มาเปิดห้องพักให้ลูก

ระหว่างทางพบหญิงคนดังกล่าว มาเสนอขายบริการทางเพศ แต่ตนตอบปฏิเสธไป จนหญิงคนนี้ เดินตามมาถึงโรงแรม เมื่อได้ห้องนอน ก็นอนรอลูกชาย 1 ชั่วโมง เกิดคิดถึงภรรยา ประกอบกับลูกชายเปลี่ยนใจ เดินทางกลับกรุงเทพ เลยลงมาเช็คเอ้าท์ออก ยืนยันที่หญิงสาวพูดว่า ตนพามาเปิดห้องหลับนอนไม่จริง หญิงสาวคนนี้ไม่ได้ขึ้นไปบนห้องกับตน

นายสมพงษ์ บอกอีกว่า เงินบริจาคตอนนี้เหลืออยู่ 9 หมื่นบาท สมุดบัญชีอยู่ที่ภรรยาเป็นคนเก็บไว้แล้ว พร้อมสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น ตนก็ยอมรับไปตรงๆ ว่านอนโรงแรมจริง แต่ไม่ได้ซื้อบริการทางเพศ ซึ่งภรรยาก็เข้าใจ แถมบอกตนว่า หากอยากซื้อบริการจริงก็ให้บอก ก็จะอนุญาต

นอกจากนี้ บางกระแสในโซเชียลของคนที่ร่วมบริจาคเงินให้ลุง ก็บอกว่า โรงพยาบาลเป็นคนถือสมุดบัญชี เดี๋ยวต้องรอทางโรงพยาบาลออกมาชี้แจงว่า รับฝากสมุดบัญชีเงินบริจาคไว้จริงหรือไม่

แฉลุงขับแทรกเตอร์พาภรรยาหาหมอ นำเงินบริจาคซื้อบริการ