นายกรัฐมนตรี ขอประชาชนอย่าทำลายประเทศ ขอเชื่อใจทำเพื่อบ้านเมือง ถูกผิดว่าไปตามกฎหมาย พร้อมบอกให้ประชาชนตัดสิน ว่าจะไปข้างหน้าหรือย้อนกลับสู่อดีต

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งและปัญหาการเมือง ว่า ตนมีแรงศรัทธามาตลอดในการทำงาน ไม่ต้องการอำนาจ ดังนั้นคนที่บอกว่าการเมืองคืออำนาจ เมื่อตนไม่ต้องการอำนาจ ไม่ต้องการผลประโยชน์ทำไมไม่ไว้ใจตน ไว้ใจการบริหารของตน ว่าจะควบคุมในเรื่องเหล่านี้ให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ปัญหาย้อนกลับที่เดิม นี่คือสิ่งที่อยากบอกทุกคน พร้อมกันนี้ขอบคุณเรื่องการรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติก แม้บางคนจะบอกว่าทำไมไม่ให้ห้างสรรพสินค้าค้าแจกถุงผ้า ขอร้องไม่อยากให้นำทุกอย่างมาเกี่ยวพันกัน เพราะสุดท้ายภาระจะตกที่ผู้บริโภค สินค้าจะขึ้นราคา ซึ่งล่าสุดตนได้สั่งการกระทรวงพาณิชย์คุมราคาสินค้าประเภทที่ไม่ควรจะขึ้น ค่าเงินบาทแข็ง ค่าการผลิตก็จะถูกลง

ส่วนเรื่องปัญหาทุจริตผิดกฎหมาย ถ้าหากมีหลักฐาน ก็ถ้าชี้แจงได้ก็จบ ถ้าชี้แจงไม่ได้ก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ฉะนั้นการพูดกันไปมา และไม่มีความชัดเจนจะเป็นการสร้างความเกลียดชังกัน เวลานี้ไม่ใช่เวลามาสร้างความเกลียดชังภายในชาติหรือไม่ แต่ควรจะรวมพลังงานกันต่อสู้ปัญหาภายนอกและปัญหาภายใน แต่ถ้าสู้กันไปมาจะแก้ไขอะไรไม่ได้สัก รัฐบาลแก้ปัญหามาโดยตลอด แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนเปิดและปิด เพราะต้องแก้ปัญหาทั้งระบบ บางอย่างได้ผล บางอย่างไม่ได้ผล เพราะบังคับไม่ได้ เป็นเรื่องประชาชน วันนี้ตนพยายามทำดีที่สุดในการแก้ปัญหา คิดตลอดไม่มีวันหยุด ไม่หยุดนิ่งนอนใจ ไม่ได้ฟังรายงานจากข้าราชการอย่างเดียว จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันสร้างประเทศก่อน มากกว่าที่จะช่วยทำลายซึ่งกันและกัน ผิดถูกให้ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าพูดและไล่กันไปมาแบบนี้ไม่เกิดประโยชน์ ไม่ว่าคนที่สนับสนุนหรือต่อต้าน เพราะคนกว่า60ล้านคน คือคนที่เสียประโยชน์ อยากจะบอกว่าพอเถอะ ขอให้มาช่วยกันฟังว่ารัฐบาลจะทำอะไรให้กับประเทศ ถ้าไม่พอใจบอกมา รัฐบาลพร้อมจะแก้ไข อย่าใช้ทุกเวทีเป็นเวทีดิสเครดิตกันไปมา เพราะบางเรื่องยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ เชื่อไม่มีใครกล้าเข้าข้างตน เพราะถ้าหากผิดไม่มีใครช่วยได้ ตนจึงใช้ความจริงใจเจตนารมณ์ในการแสดงออก

เช่นเดียวกับการแก้รัฐธรรมนูญ ยังอยู่ในขั้นตอนศึกษา ควรให้ กมธ. พิจารณา ไม่ใช่ทะเลาะกันผ่านสื่อ ไม่รู้จะเปิดประเด็นทำไม เพราะตนก็ไม่ขัดข้องอยู่แล้ว แต่ถ้ามัวแต่ทะเลาะกันตนทำอะไรไม่ได้ ขอให้เชื่อตนบ้าง กลายเป็นว่าเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งไม่ได้สาระ พูดกันได้ทุกวัน ทำให้สังคมระอุ ตรงกันจข้ามขณะที่ตนทำเพื่อประเทศแต่มีกลุ่มคนจ้องทำลาย ยืนยันไม่มีใครทำถูกและทำผิดทั้งหมด แต่ถ้าผิดกระบวนการยุติธรรมต้องตัดสิน ประเทศอยู่ได้ด้วยกระบวนการยุติธรรม คดีใดๆเมื่อศาลตัดสินแล้วต้องยุติไม่ใช่วิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะเขียนอย่างไร ก็ไม่พอใจ ดังนั้นขออย่าเอามาทะเลาะกันอีก

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สื่อด่าตนมาห้าปีเต็มๆ ตนไม่เคยไปยุ่ง หรือรังแกสื่อ แต่ถ้าไม่ยึดกฎหมาย ประเทศก็ไม่ใช่ประเทศ พร้อมย้อนถามจะย้อนกลับก่อนสมัยกรุงรัตนโกสินทร์หรือไม่ ที่มีการสู้รบ ที่บอกรักชาติ รักประชาชน รักคนไทยถูกวิธีหรือไม่ แต่ถ้ารักต้องหาวิธีการเหมาะสม และคนที่ได้รับประโยชน์ต้องมากกว่าคนที่ได้ประโยชน์ การสั่งงานไม่ใช่เหมือนการสั่งขี้มูกสั่งตนต้องเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทำให้สมองหายไปกว่าครึ่ง พร้อมบอกทำไมไม่เชื่อตน ตนเคารพด้วยการเข้ามาในประชาธิปไตย เพราะทุกคนเข้ามาด้วยระบอบประชาธิปไตย วันนี้ทุกคนลืมไปหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย จึงอยากให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะเดินไปข้างหน้าจะอยู่กับที่ จะก้าวไปข้างหลัง หรือจะรื้อทั้งหมดกลับไปสู่อดีตก็เชิญ ตนทำเต็มที่ได้แค่นี้