หลังงดเว้นการตั้งฉายารัฐบาลมา 6 ปีเต็ม เนื่องจากเป็นรัฐบาลรัฐประหาร ปีนี้สมาคมนักข่าวการเมืองประจำทำเนียบรัฐบาล ได้ฤกษ์ตั้งฉายารัฐบาล และรัฐมนตรีเสียที เพราะมาจากการเลือกตั้งแล้ว พลเอกประยุทธ์ ได้ฉายา "อิเหนา เมาหมัด" ส่วนภาพรวมรัฐบาล ได้ฉายา "รัฐเชียงกง"

สมาคมนักข่าวการเมืองประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายารัฐบาลชุดปัจจุบันว่า "รัฐเชียงกง" สะท้อนภาพรัฐบาลคล้ายแหล่งค้าขายอะไหล่มือสอง ประกอบขึ้นจากข้าราชการยุคก่อน และนักการเมืองหน้าเก่า แม้ใช้ประโยชน์ได้ แต่ยังขาดความน่าเชื่อถือ สะท้อนความไม่มีเสถียรภาพ

นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ฉายา "อิเหนา เมาหมัด" เข้าทำนอง "ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง" เช่น บอกไม่เป็นนายกฯ ไม่เล่นการเมือง สุดท้ายหนีไม่พ้น หน้ำซ้ำยังตั้งแกนนำม็อบเป็นรัฐมนตรี / มองข้ามข้อครหาเรื่องงูเห่าการเมือง / ซ้ำยังหนีสภาฯ ไม่ยอมไปตอบกระทู้

ขณะที่พลเอกประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายารัฐบาลและคณะรัฐมนตรี โดยมีสีหน้าเรียบเฉย โบกมือ พร้อมพูดเพียงสั้นๆ ว่า ไม่สนใจ โดยที่ไม่ได้หันมองสื่อมวลชน ก่อนเข้าประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)

และภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับทำเนียบรัฐบาลโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน สีหน้าเรียบเฉย และโบกมือไม่ให้สัมภาษณ์ โดยไม่หันมามองสื่อมวลชน เหมือนกับก่อนขึ้นประชุม

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้ ฉายา "พี่ใหญ่สายเอ็น" ในฐานะพี่ใหญ่ของ สาม ป. นอกจากจะต้องคอยดูแลน้องรักแล้ว ยังต้องเอ็นเตอร์เทนพรรคร่วมรัฐบาล และดูแล ส.ส.พลังประชารัฐทุกด้าน ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ ตั้งแต่คดีระหว่างประเทศยันฟาร์มไก่ ทำให้งานด้านความมั่นคงที่ได้รับมอบหมายให้ดูแล เหลือเพียงเดินสายเปิดงานอีเวนต์ ประชุมทั่วไปเท่านั้น

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฉายา "ศรีธนญชัย ลอดช่อง" จากความเป็นกูรูด้านกฎหมาย สามารถช่วยรัฐบาลรอดพ้นปากเหวได้ทุกครั้ง เปิดทางตันด้วยช่องว่างทางกฎหมายที่แม้แต่แว่นขยายก็ยังมองไม่เห็น

ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ฉายา "สารหนู" เพราะมีชื่อเล่นว่า "หนู" แต่ก็ไม่หนูอย่างที่คิด พิษสงรอบตัว ด้วยจำนวน ส.ส. ในมือ จนสามารถต่อรองคุมกระทรวงใหญ่ไว้ในมือได้ อีกทั้งนโยบายแบน 3 สารพิษ ก็โดดเด่นและถูกจับตามอง

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฉายา "ชายน้อยประชารัฐ" เนื่องจากเป็นเจ้าของโปรโจคโครงการประชารัฐ ที่หวังต่อยอดในรัฐบาลนี้ แต่กลับทำไม่ได้อย่างที่หวัง ถูกริบอำนาจงานด้านเศรษฐกิจหลายกระทรวง คล้ายคนง่อยเปลี้ยเสียขา

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฉายา "รัฐอิสระ" เนื่องจากให้ความสำคัญ และเดินหน้าเฉพาะนโยบายของพรรคตนเองเป็นหลัก ไม่สนใจภาพรวมของรัฐบาล ไม่สามารถควบคุม ส.ส. ของพรรคได้

ซึ่งวันนี้ นายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงฉายาที่ได้รับว่า เป็นฉายาน่ารักดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร ถือเป็นมุมมองของนักข่าวประจำทำเนียบที่มองว่า เป็นเช่นนั้น จึงไม่อยากโต้แย้ง ก็จะพยายามทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ฉายา "โอ๋ แซ่รื้อ" ตั้งแต่เข้ามากำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ผุดไอเดียบรรเจิด สั่งรื้อหลายโครงการที่เป็นปัญหา เช่น รื้อมาตรการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า รื้อคดีค่าโง่ทางด่วน รื้อหลักสูตรสอบใบขับชี่ แม้แต่ไม้กั้นรถไฟยังถูกรื้อ

ส่วนนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฉายา "สัปเหร่อ on top" เนื่องจากนับแต่นายวราวุธเข้ารับตำแหน่ง เกิดเหตุไม่คาดฝันกับบรรดาสิงสาราสัตว์ที่มีชื่อเสียง ทั้ง พะยูนมาเรียม แพนด้าช่วงช่วง เสือของกลาง ช้างป่าเขาใหญ่ แต่ก็สามารถแสดงศักยภาพรับมือเหตุต่างๆ ได้ดี คล้ายทำหน้าที่สัปเหร่อเก็บกวาดทุกเรื่อง

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉายา "มาดามแบนเก้อ" ที่เดินหน้าแบนสามสารพิษอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม แม้ต้องชนกับเจ้ากระทรวงของตัวเอง ก็ไม่หวาดหวั่น แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่สามารถปฎิบัติได้จริง

ด้านร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ฉายา "เทามนัส" จากการถูกขุดคุ้ยเรื่องคดีต่างๆ ทั้งเรื่องคดียาเสพติดในต่างประเทศ และวุฒิการศึกษา ยังทำให้คนกังขา ไม่เชื่อมั่นในความโปร่งใส

และวาทะแห่งปี ได้แก่ "อย่าเพิ่งเบื่อผมก็แล้วกัน ยังไงผมก็อยู่อีกนานพอสมควร" ประโยคนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ระหว่างที่พลเอกประยุทธ์ ให้โอวาทเจ้าหน้าที่และนักกีฬาทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

รัฐบาล "ประยุทธ์" คว้าฉายา "รัฐเชียงกง" - "บิ๊กตู่" ได้ชื่อ "อิเหนา เมาหมัด"