ผู้แทนพระองค์เชิญโกศศพพลเอกเปรม เคลื่อนขบวนไปพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหลวงวัดเทพศิรินทราวาส ขณะที่ประชาชนจากหลายพื้นที่เดินทางเข้าร่วมพิธี ด้วยสำนึกในความดีขององคมนตรีและรัฐบุรุษ

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี รักษาการประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในการ เชิญโกศศพ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไปพระราชทานเพลิงศพ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส โดยเคลื่อนจากพระที่นั่งทรงธรรมไปขึ้นตั้งบนราชรถ ก่อนเคลื่อนขบวนแห่เชิญโกศศพจากวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ไปยังเมรุวัดเทพศิรินทราวาส 

ขบวนเชิญโกศศพเริ่มเคลื่อนจากวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เลี้ยวซ้ายเข้าถนนศรีอยุธยา เลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินนอกถึงสะพานมัฆวานเลี้ยวซ้ายเข้าถนนกรุงเกษม ผ่านแยกเทวกรรม ผ่านแยกสะพานขาว ผ่านแยกกษัตริย์ศึก ผ่านหน้าโรงเรียนวัดเทพศิรินทราวาส แยกนพวงศ์ เลี้ยวขวาเข้าถนนหลวง เลี้ยวเข้าเมรุวัดเทพศิรินทราวาสทางประตูด้านใต้ รวมระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร จากนั้นตั้งขบวนอิสริยยศ เชิญโกศแห่เวียนเมรุ และเชิญโกศขึ้นตั้งบนจิตกาธานบนเมรุ 

จากนั้นในเวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิงศพ และในวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2562 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เก็บอัฐิ ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส 

ขณะที่บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า ได้มีการจัดเตรียมสถานที่รองรับประชาชน ที่มาร่วมไว้อาลัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นครั้งสุดท้าย โดยมีประชาชนจากหลากหลายพื้นที่เดินทางมาร่วมไว้อาลัย รวมถึงชาวจังหวัดสงขลาบ้านเกิดของพลเอกเปรม โดยประชาชนที่มาร่วมพิธีส่วนใหญ่ ยอมรับว่า แม้จะยังเสียใจแต่ก็ รู้สึกภาคภูมิใจ ที่และชื่นชมพลเอกเปรมที่เป็นผู้มีคุณูปการต่อชาติ บ้านเมือง โดยคำสอนของท่านที่ยังอยู่ในใจของทุกคน คือ เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 

 พลเอกเปรม เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 ของประเทศ ถึง 3 สมัย หลังพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี ยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ และเป็นประธานองคมนตรี พลเอกเปรม ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย

ประชาชนร่วมงานพระราชทานเพลิงพลเอกเปรม