ตำรวจนำตัวคนส่งแก๊ส ผู้ต้องหาฆาตกรรมอดีตพยาบาลอายุ 81 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เตรียมส่งฝากขังช่วงบ่ายวันนี้ ขณะที่ลูกสาวผู้ตายไม่เชื่อทำไปเพราะบันดาลโทสะ แต่น่าจะมาจากอาการคลุ้มคลั่งเพราะเสพยา

กล้องวงจรปิดจับภาพคนขับรถส่งแก๊ส ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาจอดหน้าบ้านของนางจีรวรรณ ศิริรักษ์ อายุ 81 ปี อดีตพยาบาลและ สท.เมืองพังงาหลายสมัย ซึ่งเป็นตึกแถว 2 ชั้น ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดพังงา ก่อนที่นางจีรวรรณจะถูกฆาตกรรมเสียชีวิตภายในบ้านพักหลังดังกล่าวเมื่อช่วงบ่ายวานนี้

ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดนี้ เป็นหลักฐานสำคัญที่ตำรวจใช้ในการคุมตัวนายโอ๋ อายุ 20 ปี ชายที่ปรากฎในภาพมาสอบสวนและให้การรับสารภาพเป็นคนฆ่านางจีรวรรณ เบื้องต้นระบุสาเหตุไปซื้อลูกชิ้น แต่ผู้ตายไม่ยอมขายให้จึงเกิดความโมโห คิดว่าผู้ตายดูถูก ชักมีดทำครัวที่พกไว้ในรถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกมาแทงผู้ตายจนเสียชีวิต

หลังเกิดเหตุ ได้หลบหนีออกมาบ้านที่เกิดเหตุ แล้วกลับไปที่บ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะออกมาทำงานปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งมาถูกจับได้ในที่สุด

ล่าสุดเช้ามืดที่ผ่านมา ตำรวจนำตัวนายโอ๋ ไปทำแผนประกอบรับสภาพ 4 จุด ก่อนนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม ขณะที่ผู้ต้องหายังยืนยันทำไปเพราะบันดาลโทสะเรื่องการซื้อลูกชิ้นแล้วผู้ตายไม่ยอมขายให้

และจากการตรวจสอบปัสสาวะผู้ต้องหาพบว่ามีสีม่วง จึงนำปัสสาวะส่งไปที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จังหวัดภูเก็ต เพื่อยืนยันเป็นสารเสพติดชนิดใด ส่วนผู้ต้องหาจะนำตัวไปฝากขังช่วงบ่ายวันนี้

นางสาวทิพาพร ศิริลักษณ์ อายุ 56 ปี ลูกสาวผู้ตาย ระบุว่า ไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาฆ่าแม่เพราะไม่พอใจที่ไม่ขายลูกชิ้นให้ น่าจะมาจากอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาเพราะตรวจพบฉี่สีม่วง

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาเคยมาซื้อลูกชิ้น 2 ครั้ง ครั้งแรกซื้อ 1 ไม้เมื่อนานมาแล้ว และมาซื้ออีกครั้งเมื่อวาน ซึ่งไม่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องฆ่าแม่ของตน

ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาบอกว่าเคยมีปากเสียงกับผู้ตายเรื่องการส่งแก๊สนั้น ยืนยันไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน ผู้ต้องหาเคยมาส่งแค่ 2 ครั้ง แม่ของตนก็ไม่เคยดุด่าแต่อย่างใด เวลาผู้ต้องหาขับรถผ่านหน้าบ้านก็ยังทักทายกันตามปกติ

ขณะที่ในช่วงบ่าย 2 โมงวันนี้จะมีพิธีรดน้ำศพผู้ตายที่วัดถ้ำพุงช้าง ในเขตเทศบาลเมืองพังงา