บุกช่วยเด็กชายวัย 13 ปี ถูกพ่อแท้ๆ และแม่เลี้ยงล่ามโซ่นานกว่า 1 ปี อ้างเป็นโรคลมชัก กลัวได้รับอันตราย

ตำรวจภูธรควนกาหลง พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บุกช่วยเหลือเด็กชายอายุ 13 ปี ถูกพ่อแท้ๆและแม่เลี้ยงจับล่ามโซ่ที่ขา ผูกติดกับต้นมะขาม หลังบ้านพักใน อ.ควนกาหลง จ.สตูล นานกว่า 1 ปี ใกล้กันยังพบกะละมังใส่อาหารวางอยู่ด้วย

ทันทีที่เด็กชายเห็นเจ้าหน้าที่ ก็มีท่าทางหวาดกลัว เดินหลบหลังต้นมะขาม พูดจาซ้ำไป ซ้ำมา และเมื่อตำรวจคุมตัวไปสอบต่อที่โรงพัก เด็กชายถึงขั้นสะบัดมือหนี ตรงไปเก็บเศษอาหารในถังขยะกินด้วยความหิวโหย สร้างความตกใจอย่างมาก

พ่อ เล่าว่า ลูกชายป่วยเป็นโรคลมชักตั้งแต่แรกเกิดมีพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่ง คล้ายคนสมาธิสั้น เคยพาไปรักษา และให้อยู่กับย่า ที่จ.นครศรีธรรมราช กระทั่งตนแต่งงานใหม่ จึงเอาลูกชายมาอยู่ด้วย ทำให้ขาดการรักษา

ที่ผ่านมาตนกับภรรยาใหม่ ต้องทำงานกรีดยาง ไม่มีเวลาดูแลลูก มักจะวิ่งหนีไปไกลๆ ต้องคอยตามกลับบ้าน กลัวว่าจะตกน้ำ ถูกสัตว์ทำร้าย เลยจำเป็นต้องจับลูกล่ามโซ่ไว้กับต้นมะขาม แม้จะเคยตีให้เชื่อฟัง แต่ยืนยันไม่เคยทารุณ

ส่วนแม่เลี้ยง บอกว่า จะล่ามโซ่ตั้งแต่ 8 โมงถึงบ่าย 2 เมื่อทำงาน ทำธุระเสร็จ ก็จะพาไปอาบน้ำ กินข้าว กินขนม ปล่อยให้เล่นตามประสา ยืนยันที่ต้องล่ามโซ่  เพื่อไม่ให้เดินหนี ยอมรับว่าเคยห้ามสามีไม่ให้ล่ามโซ่ แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ จะไม่มีเวลาได้พักผ่อนเลย  

ขณะที่นายประมาณ จันทร์พาณิชย์ นักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สตูล ได้พาเด็กชายไปตรวจร่างกาย พบที่ศีรษะ และตามตัวมีบาดแผล แต่พ่ออ้างว่า เกิดจากความซุกซน และแพทย์ยังพบว่า เด็กชายมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับพัฒนาการทางสมองจริง พ่อจึงจับล่ามไว้ โดยทางการแพทย์ถือว่าไม่ผิด แต่หากจะให้เหมาะสม ควรใช้ผ้ามัด แทนโซ่

ขณะที่พ่อเด็กชาย ก็ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง อาการน่าเป็นห่วงมาก เพราะอาจทำร้ายตัวเองได้

เบื้องต้นได้ส่งเด็กชายคืนให้ครอบครัวแล้ว เพราะประเมินแล้วว่า ไม่ได้กระทำโหดร้าย เพียงต้องการปกป้องเด็ก ไม่ให้เกิดอันตราย แต่จะส่งเจ้าหน้าที่ไปประเมินอย่างต่อเนื่อง 

บุกช่วยเด็กชายอายุ 13 ปี ถูกพ่อ-แม่เลี้ยง ล่ามโซ่นานนับปี