นิติบุคคลคอนโดนำภาพจากกล้องวงจรปิด ที่จับภาพตั้งแต่นำร่างพริตตี้สาวที่หมดสติออกจากรถขึ้นคอนโดมาให้ตำรวจ เพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติม

คลิปวิดีโอที่นายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือไออุ่น อายุ 25 ปี ถ่ายไว้ ก่อนส่งเข้าไปในกลุ่มเพื่อนพริตตี้ ดูว่านางสาวธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ อายุ 25 ปี พริตตี้สาวสวยนอนไม่ได้สติอยู่บนห้องพักของตนเอง และที่ติดต่อไม่ได้เนื่องจากโทรศัพท์ของผู้ตายแบตหมด ซึ่งคลิปวิดีโอนี้เป็นคลิปที่นายรัชดา จะนำไปมอบให้กับตำรวจนครบาลบุคคโล เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า ตนเองไม่รู้ว่า เบล เสียชีวิต เพราะเข้าใจว่าเพื่อนตนเอง เมาหนักจนสลบไป โดยจนเองยินดีที่จะให้เก็บดีเอ็นเอไว้เพื่อตรวจสอบ

นายรัชเดช เล่าว่า ลูกค้าจ้างตนเอง และเบล ไปดูแลเครื่องดื่มในงานช่วงกลางวัน เลิกงานประมาณช่วงเย็น ตนเองเห็นเพื่อนเมามาก จึงพามาที่คอนโดตัวเอง เมื่อมาถึงก็ต่างคนต่างหลับ จนตื่นมาตอนดึกยัง เห็นเพื่อน สลบไม่ได้สติ จึงโทรไปบอกเพื่อนเบล ให้มารับตัวกลับไป โดยที่เพื่อนบอกให้ตนเองอุ้มเบลลงมาไว้บริเวณล็อบบี้ ก่อนจะขึ้นไปนอนต่อ

สอดคล้องกับเพื่อนของผู้ตาย ระบุว่า วันเกิดเหตุได้ไปตามหาเบลที่น้องเบลไปทำงานย่านบางบัวทอง แต่ไม่พบ นายรัชเดชได้โทรศัพท์หาเพื่อนในกลุ่ม ให้มารับน้องเบล เพราะ เบลตัวเย็นซีด และปัสสาวะราดด้วย

ขณะที่นิติบุคคล คอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดภายในคอนโดมิเนียมที่มีกว่า 10 ตัวมามอบให้ตำรวจ โดยวงจรปิดจับภาพ นายรัชเดชนำตัวน้องเบลที่ไม่ได้สติ ออกจากลานจอดรถ พาเข้าไปในลิฟท์ ตอน 18.02 น. เพราะลูกบ้านร้องเรียนว่าพบว่าคราบปัสสาวะในลิฟท์ จากนั้นได้พาเข้าห้อง และกลับออกมานำร่างเบล ลงลิฟท์มาไว้ที่โซฟาด้านล่างคอนโดอีกครั้งในช่วงกลางดึก ซึ่งนายรัชเดช มีอาการกระวนกระวาย เดินวนเวียนอยู่บริเวณโซฟาพักใหญ่ ก่อนที่กลับขึ้นห้อง จนกระทั่งมีเพื่อนของพริตตี้สาวมาพบ พร้อมยอมรับว่า ห้องของนายรัชกร เคยถูกร้องเรียนหลายครั้ง เพราะมีการจัดปาร์ตี้และเปิดเสียงดังรบกวน

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอนโดที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า นายรัชเดชมักจะพาหญิงสาวแวะเวียนเข้ามาเป็นประจำซึ่งมีทั้งสภาพที่เมาสุราเข้ามา

ขณะที่ตำรวจ ระบุ ผลแพทย์ออกมายืนยันว่า ผู้ตายน่าจะเสียชีวิตในเวลา 21 นาฬิกา เตรียมเชิญตัวผู้ว่าจ้างงานน้องเบล และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ปากคำ รวมทั้งยังต้องรอผลการชันสูตรของนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ถึงสาเหตุการเสียชีวิตก่อนจะพิจารณาตั้งข้อหาผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป