ทนายความผู้ร่วมเปิดโปงกรณีเสือของกลางในวัดป่าหลวงตาบัวฯหาย3ตัว เมื่อปี 57 ชี้ กระแสโซเชียลที่เรียกร้องให้นำเสือกลับมาอยู่ในความดูแลของวัด ไม่สามารถทำได้

กรณีเสือของกลางที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช ตรวจยึดจากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จังหวัดกาญจนบุรี 147 ตัว และนำไปดูแลที่จังหวัดราชบุรีล้มป่วยตาย 86 ตัว ทำให้เกิดกระแสในโลกโซเชียลต่อว่าการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดูแลเสือโคร่งไม่ดี พร้อมเรียกร้องให้ส่งเสือโคร่งที่เหลือให้กลับไปอยู่ในความดูแลของทางวัด 

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เสือทั้งหมดไม่ได้ตายพร้อมกันทีเดียว และสาเหตุเกิดจากการผสมในสายพันธุ์เดียวกัน ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง 

จากนี้จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบซากเสือว่ายังสมบูรณ์หรือไม่ หลังมีความเป็นห่วงว่าอาจจะมีการนำซาก หรือเขี้ยวเสือ ไปหาผลประโยชน์ และขอให้คำมั่น ว่าไม่มีใครจะเอาของกลางไปทำอะไรได้ พร้อมยืนยันว่าวัดไม่สามารถนำเสือที่เหลือกลับไปดูแลได้เพราะเป็นของกลางในคดี 

ด้านนายสุชพงศ์ บุญเสริม ทนายความที่เคยร่วมเปิดโปง เรื่องเสือ3ตัว ที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จากวัดป่าหลวงตาบัวญาณสัมปันโน ให้ความเห็็นว่า กรณีเสือโคร่งของกลางป่วยตาย ถือเป็นเรื่องที่มีส่วนผิดด้วยกันทั้ง2ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐ ที่รับเอาเสือไปดูแล เมื่อเสือเริ่มมีอาการป่วย ก็ไม่ได้มีการแจ้งเรื่องให้กับผู้ติดตามข่าวสารทราบ รวมถึงไม่ได้แยกเสือที่ป่วยออกจากเสือตัวอื่น ส่งผลให้มีเสือป่วยตายถึง86ตัว 

ขณะที่วัดเอง ก็ถือเป็นต้นเหตุของปัญหาที่มีเสือของกลางในความดูแลหายไป 3 ตัว จนทำให้ทางกรมอุทยานฯ ต้องตัดสินใจขนย้ายเสือของกลางทั้งหมด กลับไปดูแลเอง ซึ่งจนถึงขณะนี้เอง ก็ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าเสือทั้ง 3 ตัวหายไปไหน 

นายสุชพงศ์ ยังมองว่า เรื่องนี้น่าจะมีทางออกที่เหมาะสม นั่นคือการเปิดโอกาสให้องค์กรจากต่างประเทศ ที่เคยแสดงความต้องการเข้าช่วยเหลือในการดูแลเสือโคร่งได้เข้ามาร่วมดูแลเสือที่เหลืออยู่ รวมทั้ง จัดหาสถานที่ที่เหมาะสมในการดูแลเสือเหล่านี้

แจงเสือของกลาง 86 ตัวไม่ได้ตายพร้อมกัน ยันเขี้ยวเสือยังอยู่