ไล่ล่า "เสี่ยคาร์แคร์ปืนดุ" โมโหตามง้อเมียไม่สำเร็จ พี่สะใภ้เข้าห้ามถูกยิงแสกหน้าเสียชีวิต แม่ผู้ต้องหาเผยข้อมูลสุดช็อก พี่สะใภ้เป็นเมียอีกคนของลูก

เหตุการณ์ที่นายเอ้ อายุ 37 ปี เจ้าของร้านคาร์เเคร์ มาตามง้อภรรยา ที่บ้านพักในซอยอนามัยงามเจริญ 10 แต่ขณะนั้นพี่ภรรยา อายุ 37 ปี เข้ามาห้าม จึงถูกยิงแสกหน้าเสียชีวิต 

จากนั้นนายเอ้ยังไม่ยอมหยุด ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกัน กราดยิงใส่กลุ่มญาติๆ ทำให้ลูกสาวผู้ตายอายุ 19 ปี ถูกลูกหลง ถูกยิงเข้าที่ลำคอ และหน้าอก เจ็บสาหัส และยังหันมายิงปืนใส่ภรรยา แต่โชคดีกระสุนไม่ออก ภรรยาจึงปีนหน้าต่างหนีตายออกจากบ้าน รอดหวุดหวิด 

ล่าสุดตำรวจออกหมายจับผู้ก่อเหตุแล้วในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เชื่อว่าคนร้าย น่าจะหลบหนีอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากมีเงินติดตัวไปไม่มาก 

คุณดารินทร์ หอวัฒนกุล ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่พูดคุยกับน้องสาวผู้ตาย และเป็นภรรยาผู้ต้องหา เธอ เล่าว่า อยู่กินกับสามีมา 9 ปี มีลูกชายวัย 4 ขวบ ด้วยกัน 1 คน และกำลังท้องลูกคนที่ 2 อยู่ 4 เดือน ระยะหลัง สามีเริ่มหึงหวงทุกคนที่เข้าใกล้ หวาดระแวงกลัวตนจะไปมีคนอื่น บางครั้งเห็นตนเล่นโทรศัพท์ก็มโนไปเองว่าคุยกับผู้ชาย ทำให้มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง หนักสุดถึงขั้นทำร้ายร่างกาย จนตนทนไม่ไหวต้องแจ้งความจับสามี แต่เมื่อพ้นโทษกลับมาอยู่ด้วยกันอีก ก็มีพฤติกรรมเดิมๆ ตนเองทนไม่ไหว จึงหนีกลับมาอยู่กับครอบครัว ซึ่งนอกจากตนเองแล้วสามียังมีอาการเหมือนหวงพี่สาวและหลานด้วย 

วันเกิดเหตุสามีทะเลาะกับพี่สาวถึงขั้นขึ้นมึง-กู และพี่สาวท้าให้เอาปืนมายิง จากนั้นไม่กี่วินาทีสามีก็ชักปืนมายิงพี่สาว ยอมรับเสียใจมาก ไม่คิดว่าสามีจะกล้าทำ เพราะพี่สาวเคยช่วยชีวิตสามีที่พยายามที่จะผูกคอตายไว้ 

แม่ผู้ต้องหา เปิดใจกับทีมข่าวทั้งน้ำตาว่า ไม่คิดว่าลูกชายจะฆ่าคนตาย และลูกเคยเล่าว่าผู้ตายเป็นภรรยาอีกคนหนึ่งที่เขารักมาก ไม่ต่างจากภรรยาตัวจริง (น้องผู้ตาย) ถึงขนาดทุ่มซื้อบ้าน ซื้อรถ และออกเงินสร้างบ้านให้ที่จังหวัดมหาสารคาม โดยใส่ชื่อผู้ตายเป้นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมด

ก่อนหน้านี้ ลูกชาย เคยจับได้ว่า ภรรยาติดต่อกับสามีเก่า จึงหึงหวง และระแวงกลัวถูกทิ้งเพราะเคยมีปมเรื่องดังกล่าว ตนเองเคยบอกให้ไปพบแพทย์ แต่ลูกชายก็ไม่ไป 

แม่ผู้ต้องหา ยังฝากถึงลูกชายว่า อยากให้เข้ามอบตัว เป็นห่วงกลัวว่าจะถูกวิสามัญฆาตกรรม ส่วนอาการ หลานสาวอายุ 19 ปี พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังอยู่ในห้อง ICU