ชาวบ้านและเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านแม่ขุนปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ วอนช่วยติดตั้งเสาไฟฟ้าในพื้นที่ หลังจากเด็กต้องจุดเทียนเรียนหนังสือ และทั้งหมู่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้มานานกว่า 50 ปี

เด็กนักเรียนที่โรงเรียนบ้านแม่ขุนปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ต้องจุดเทียนให้แสงสว่างในการเรียนหนังสือ ภายในห้องเรียน ทำให้การเรียนเต็มไปด้วยความยากลำบาก และมีผลกระทบต่อสายตาของเด็ก ๆ หลังจากโรงเรียนแห่งนี้ ต้องประสบปัญหาไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้มานานกว่า 50 ปี เช่นเดียวกับชาวบ้านในหมู่บ้านที่มีอยู่กว่า 300 คน

นายศราวุฒิ บัวชุม อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่ธุรการของโรงเรียน บอกว่า โรงเรียนสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล จนถึง ป.6 ปัจจุบัน มีนักเรียนเพียง 11 คน เนื่องจากอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ห่างจากสำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 ประมาณ 77 กิโลเมตร

ปัจจุบันหมู่บ้านใช้ระบบไฟฟ้าพลังน้ำ ได้รับการสนับสนุนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เพราะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา และเป็นพื้นที่ดอยสูง จึงไม่มีไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูแล้ง เพราะขาดแคลนน้ำในการผลิตกระแสไฟฟ้า ส่วนช่วงฤดูทำนา ก็มีปัญหา เพราะชาวบ้านต้องใช้น้ำทำนา จึงไม่มีกระแสไฟฟ้าเพียงพอสำหรับโรงเรียน

ส่วนแผงโซลาเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ บางส่วนชำรุดทรุดโทรม และ วันไหนมีฝนตก ก็ไม่สามารถใช้การได้เช่นเดียวกัน จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้โรงเรียนมีไฟฟ้าใช้ เพราะหมู่บ้านแห่งนี้ ไม่มีไฟฟ้าใช้มานานกว่า 50 ปีแล้ว

ด้านนายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา เปิดเผยว่า โรงเรียนบ้านแม่ขุนปั๋ง และหมู่บ้านบริเวณดังกล่าว เป็นหมู่บ้านที่ห่างไกล และอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ป่า ในอดีตมีการบุกรุก แต่จากการเข้าไปพูดคุยแล้ว หมู่บ้านแห่งนี้ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย และให้ความร่วมมือด้วยดีมาโดยตลอด

สำหรับเรื่องของกระแสไฟฟ้า เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้เข้าไปทำประชาคมในพื้นที่แล้ว ซึ่งทางอุทยานฯ ไม่ได้ขัดข้อง แต่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ต้องทำหนังสือเข้ามา เพื่อเข้าร่วมกับอุทยานฯ ในการพัฒนาประโยชน์ในพื้นที่ และต้องดูว่า การติดตั้งเสาไฟฟ้าจะต้องตัดต้นไม้ไปมากน้อยแค่ไหน

ซึ่งทางอุทยานฯ จะนำข้อมูลมาศึกษาและเสนอต่อกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช เพื่อพิจารณาถึงผลกระทบ ทั้งการวางแนวและชนิดใช้สายไฟต่อไป