"เสือ ดุสิต" และพวกรวม 4 คน เจอข้อหาปล้นทรัพย์ บ่อนพนันในซอยพหลโยธิน 50 สารภาพ ได้ก่อเหตุจริง เพราะคิดว่าถูกโกงจากการเล่นการพนัน ด้าน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ระบุ แยกดำเนินเป็น 2 คดี คือ คดีร่วมกันปล้นทรัพย์ และคดีลักลอบเปิดบ่อนการพนัน

จากภาพเหตุการณ์ ที่มีชาย มีรอยสักเต็มตัว พร้อมพวก ใช้อาวุธปืน บุกปล้นบ่อนพนันที่จัดขึ้นในอาคารไม่มีเลขที่ ภายในซอยพหลโยธิน 50 แยก 1 และคนร้ายได้เงินไปจำนวนมาก ก่อนจะทราบภายหลังว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายสัมฤทธิ์ ริมเถื่อน หรือเสือ ดุสิต และพวก เจ้าหน้าที่จึงตามสืบสวนจนทราบว่า ผู้ที่จัดบ่อน ให้เล่นพนันไฮโล คือ นางสาวปัญภรณ์ อินทรจันทร์ เป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ และนายมานิต ใช้ประทุม เป็นเจ้าของสถานที่จัดบ่อน จึงได้เรียกมาให้ปากคำเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยทั้งคู่ให้การว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม เวลาประมาณ 21.00 น. ต่อเนื่องไป จนถึงเวลา 03:00 น.(24 ส.ค.) ขณะที่เกิดเหตุมีชาย 2 คน ใช้อาวุธปืนข่มขู่นายมานิต และนางสาวปัญภรณ์ ภายในวงการพนัน และมีชายอีก 2 คน ยืนคุมเชิงและก่อเหตุด้วย โดยผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คน ได้หยิบเงินไปจากวงการพนันรวม 12,000 บาท และได้มาทราบชื่อภายหลังว่าผู้ที่ใช้ปืนข่มขู่ คือ นายสัมฤทธิ์ ริมเถื่อน หรือเสือ ดุสิต และ นายวัชระ มากจงดี ส่วนคนคุมเชิงอีก 2 คน คือ นายอนนต์เศรษฐ์ อวยพร และนาย สัมภาษณ์ โสภี

ซึ่งก่อนเกิดเหตุ เสือ ดุสิต และพวกรวม 4 คน ได้เล่นการพนันที่บ่อนดังกล่าว และเสียเงินไปหลายบาท จึงเข้าใจผิดว่า นายมานิต และนางสาวปัญภรณ์ โกง จึงชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ เพื่อต้องการเงินที่เสียไปคืน ซึ่งหลังก่อเหตุ ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยตกลงกัน โดยนายมานิต ได้สอบถามนาย เสือ ว่าเสียเงินไปจำนวนเท่าไหร ซึ่งนายเสือ ก็บอกว่าประมาณ 15,500 บาท นายมานิตย์ จึงให้เงินอีก 3,500 บาท  ก่อนแยกย้ายกัน แต่เมื่อมีภาพวงจรปิด และมีข่าวเผยแพร่ออกไป ว่า เสือ ดุสิต ปล้นบ่อน จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน. บางเขน เพื่อดำเนินคดีกับ นายสัมฤทธิ์หรือ เสือ ริมเขื่อน กับพวกรวม 4 คนในข้อหาปล้นทรัพย์

จนกระทั่งช่วงเย็นวานนี้ 25 สิงหาคม เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายสัมฤทธิ์ ริมเถื่อน หรือ เสือ อายุ 33 ปี นายวัชระ มากจงดี อายุ 22 ปี หรือ โจ๊ก นายอนนต์เศรษฐ์ อวยพร อายุ 20 ปี หรือตั้ม และนายสัมภาษณ์ โสภี อายุ 27 ปี หรือ โอ๋ พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนบีบีกัน 2 กระบอก ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุปล้นบ่อนพนันจริง เนื่องจากเข้าใจผิดว่าถูกโกงจากการเล่นการพนัน

ขณะที่พลตำรวจตรีเอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เผยว่า คดีนี้จะแยกดำเนินเป็น 2 คดี คือ คดีร่วมกันปล้นทรัพย์ และคดีลักลอบเปิดบ่อนการพนัน ซึ่งนอกจากจะดำเนินคดีกับผู้ดูแลบ่อนพนัน และเจ้าของสถานที่แล้ว ก็จะขยายผลไปยังผู้ที่บงการเปิดบ่อนพนันต่อไป ส่วนเรื่องที่ตำรวจในพื้นที่เข้าข่ายปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบเปิดบ่อนพนันหรือไม่ ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว ต้องรอผลการสอบสวนพิจารณาก่อนว่า เป็นความบกพร่องหรือไม่ จึงจะพิจารณาดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้พนักงานสอบสวน จะเร่งสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พร้อมแจ้งข้อหาฐานร่วมกันปล้นทรัพย์ ก่อนที่วันพรุ่งนี้จะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญารัชดาภิเษกต่อไป

:รสริน หนูตอ ผู้สื่อข่าว